คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม

Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/140

ค้นหา

ผลการค้นหา

กำลังแสดง1 - 10 of 18
  • คอลเลกชัน
    วิจัย
  • คอลเลกชัน
    วิจัยสถาบัน
  • คอลเลกชัน
    วิทยานิพนธ์
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การศึกษาโซ่อุปทานและระบบโลจิสติกส์ของผลไม้สด ณ ตลาดไทยเจริญ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อเป็นแนวทางการส่งเสริมด้านการค้าขายที่เหมาะสมและรองรับกับการพัฒนาสี่แยกอินโดจีนในปัจจุบัน
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) เพชรายุทธ แซ่หลี; อลงกรณ์ เมืองไหว; วชิระ วิจิตรพงษา; วชิระ วิจิตรพงษา; ธณิตา โขนงนุช; นภาพร แก้วทิพย์
    งานวิจัยนี้เป็นการศึกษาโซ่อุปทานของผลไม้สด 3 ชนิด ที่มีปริมาณมากที่สุดที่ตลาดไทยเจริญ จังหวัดพิษณุโลก ได้แก่ มะม่วง สับปะรดและแตงโม โดยใช้วิธีการลงพื้นที่สำรวจ เก็บข้อมูลและสัมภาษณ์เกษตรกรผู้เพาะปลูกผลไม้ ผู้จัดการตลาดไทยเจริญและผู้ที่เกี่ยวข้องในตลาดปลายน้ำของโซ่อุปทาน เพื่อให้เห็นภาพของโซ่อุปทานของผลไม้ทั้ง 3 ชนิด ที่ส่งผ่านมายังตลาดไทยเจริญ หลังจากนั้นได้ทำการวิเคราะห์ SWOT และวิเคราะห์กิจกรรมในห่วงโซ่คุณค่า เพื่อหาแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพของโซ่อุปทานของผลไม้แต่ละชนิด ผลการวิจัยพบว่าเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ทั้ง 3 ชนิด ในพื้นที่ศึกษา ยังขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดการแปลงเพาะปลูกที่ดี การหาช่องทางในการจำหน่ายและกระจายสินค้า รวมถึงการรวมกลุ่มเกษตรกร ดังนั้นภาครัฐจึงควรส่งเสริมและให้ความรู้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับหลักปฏิบัติที่ดี (GAP) ในการจัดการสวน การทำผลผลิตนอกฤดูและการใช้เทคโนโลยีในปัจจุบัน เพื่อลดต้นทุนและสร้างความสามารถในการแข่งขัน นอกจากนี้ภาครัฐควรส่งเสริมและผลักดันให้เกษตรกรเห็นความสำคัญของการรวมกลุ่มเกษตรกรและการสร้างเครือข่ายเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและสร้างอำนาจต่อรองแก่เกษตรกรในการซื้อขายผลผลิตและวัตถุดิบในการผลิต ในส่วนของตลาดไทยเจริญควรเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาด้านสาธารณูปโภคและวางแผนการพัฒนาตลาด เพื่อให้สามารถรองรับการขยายตัวของตลาด และควรเพิ่มการโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางต่างๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น สำหรับตลาดปลายน้ำซึ่งเป็นตลาดใหญ่ ควรปรับปรุงพื้นที่และการจราจรภายในตลาดไม่ให้เกิดความแออัด โดยเฉพาะในช่วงเทศกาล เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุและอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการและลูกค้าที่เข้ามายังตลาด
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนโดยการใช้แอพพลิเคชั่น Google Classroom ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาวัสดุวิศวกรรม ให้ทันสมัยกับยุคไทยแลนด์ 4.0
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) ณัฐพร ตั้งเจริญชัย
    จากการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยรูปแบบการเรียนการสอนของรายวิชา วัสดุวิศวกรรม จากการสร้างห้องเรียนด้วยการใช้แอพพลิเคชั่น Google Classroom มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการประเมินการเรียนการสอนระหว่างภาคต้น และภาคปลาย ในภาคเรียน 2/2561 ปีการศึกษา 2560 โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลก่อนและหลังใช้แอพพลิเคชั่น ซึ่งข้อมูลที่ทำการเก็บแต่ละด้านประกอบไปด้วย 1.ด้านผลสัมฤทธิ์ 2.ด้านการเข้าถึงข้อมูลจากขั้นเรียน 3.ด้านการส่งแบบฝึกหัด/รายงาน และ4.ภาพรวมนิสิตประเมินด้าน การวัดประเมินผล ของนักศึกษา จากการประเมินแบบสอบถามออนไลน์ จาก Google Form ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากค่าเฉลี่ยตามรายข้อมูลที่นิสิตประเมินตนเอง และนำค่าเฉลี่ยแปลงเป็นค่าระดับความพึงพอใจ ผลจาการวิเคราะห์สามารถสรุปผลได้ว่า คะแนนเฉลี่ยแต่ละด้านเมื่อนำมาจัดลำดับที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดไปยังค่าเฉลี่ยต่ำสุดได้แก่ 1.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้านประเมินผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาที่จัดสอน อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.55 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 62.8 หลังการปรับปรุง 91 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 28 2.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้านการเข้าถึงข้อมูลจากขั้นเรียนในรายวิชาที่จัดสอน อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.64 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 56 หลังการปรับปรุง 92.8 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 36.8 3.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้านการส่งแบบฝึกหัด/รายงานในรายวิชาที่จัดสอน อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.64 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 60 หลังการปรับปรุง 92.8 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 32.8 4.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้าน การวัดประเมินผล ของนักศึกษาในรายวิชาวัสดุวิศวกรรมต่อการใช้ Google Classroom อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.66 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 68.8 หลังการปรับปรุง 93 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 24.2