คลังสารสนเทศดิจิทัลพิบูลสงคราม

รายการล่าสุด
การจัดการธุรกิจผ้าทอมือบนวิถีวัฒนธรรมภูมิปัญญาท้องถิ่นบ้านม่วงหอม ตำบลแก่งโสภา อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก
(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) บุษบา หินเธาว์; นภาภรณ์ อุ่นปริชาวณิชย์; ธิดารัตน์ วุฒิศรีเสถียรกุล; อารีย์ บรีดีกุล; รัตนา สิทธิอ่วม
การศึกษานี้เป็นการศึกษาทั้งเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ1) พัฒนาผลิตภัณฑ์ผ้าทอมัดหมี่ประเภทผ้าพันคอให้สามารถเพิ่มมูลค่าเชิงพาณิชย์ได้ 2) เพื่อพัฒนากลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดด้วยสื่อสังคมออนไลน์พร้อมพัฒนาศักยภาพผู้ผลิตผ้าทอบ้านม่วงทอมให้สามารถใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการจำหน่ายสินค้าผ้าทอ 3) เพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เรื่องผ้าทอมัดหมี่บ้านม่วงทอม 4) เพื่อพัฒนาหลักสูตรบูรณาการภูมิปัญญาการทอผ้ามัดหมี่บ้านม่วงทอม โดยวิธีการสัมภาษณ์เชิงลึก การสนทนา การสังเกตการณ์ และแบบสอบถาม โดยใช้วิธีเชิงพรรณนาและวิเคราะห์เนื้อหา และวิเคราะห์เชิงสถิติด้วยค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เพื่อนำข้อมูลมาสรุปและเสนอแนะ ผลการศึกษา พบว่า ผู้บริโภคมีความพึงพอใจรูปแบบผลิตภัณฑ์ผ้าพันคอแบบที่ 3 มากที่สุด ค่าเฉลี่ยคือ 4.06 รองลงมาเป็นรูปแบบที่ 1 มีค่าเฉลี่ย 4.04 และรูปแบบที่ 2 ค่าเฉลี่ย 4.02 และให้ความสำคัญกับผลิตภัณฑ์ที่ประโยชน์ใช้สอยมากที่สุด ซึ่งผ้าพันคอทั้ง 3 แบบมีต้นทุนเท่ากันที่ราคา 117.40 บาท กลยุทธ์การส่งเสริมการตลาดด้วยสื่อสังคมออนไลน์ในการจำหน่ายสินค้าผ้าทอบ้านม่วงทอม สามารถเรียงลำดับตามความสำคัญคือ 1) การนำเสนอในรูปแบบวีดีโอถ่ายทอดสด 2) การจัดกิจกรรมพิเศษผ่านสื่อสังคมออนไลน์ และ 3) การส่งเสริมการขายด้วยภาพ/วีดีโอ ส่วนระบบสารสนเทศเพื่อการเรียนรู้เรื่องผ้าทอมัดหมี่บ้านม่วงทอมที่พัฒนาขึ้น มีผลการประเมินในด้านต่างๆ ที่ พบว่า ภาพรวมของการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อวีดีโออยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.38 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.679 และภาพรวมของนำเสนอข้อมูลผ่านเว็บไซต์อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ย 4.24 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.638 และผลการสัมภาษณ์พบว่าข้อมูลและรูปแบบสารสนเทศที่นำเสนอมู่เนื้อหาที่ถูกต้อง ครบถ้วน และมีความน่าสนใจ สามารถเรียนรู้ได้อย่างเข้าใจง่าย และเป็นช่องทางการเผยแพร่ภูมิปัญญาท้องถิ่นและให้คนรุ่นหลังได้สืบทอดต่อไป อีกทั้งการพัฒนาหลักสูตรบูรณาการภูมิปัญญาการทอผ้ามัดหมี่บ้านม่วงทอม มีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก สามารถนำไปใช้ในการจัดการเรียนรู้ให้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ได้อย่างราบรื่นและบรรลุผลตามจุดประสงค์ที่ตั้งไว้
ระบบประเมินภาระงาน (สายสนับสนุน)
(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2568) สมภพ มุสิกร; 156 หมู่ที่ 5 ต.พลายชุมพล อ.เมืองพิษณุโลก จ.พิษณุโลก 65000
การพัฒนาแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานอีสปเป็นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2566) พรพิมล ญาณปัญญา; สกล เกิดผล
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1)เพื่อสร้างและหาคุณภาพของแบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานอีสปเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 2)เพื่อเปรียบเทียบความสามารถในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้แบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานอีสปเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนตามเกณฑ์ร้อยละ 75 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานอีสปเป็นฐานสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนเทศบาล 3 วัดชัยชนะสงคราม จำนวน 30 คน โดยได้มาจากการสุ่มอย่างง่ายโดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยในการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ แบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานอีสปเป็นฐาน จำนวน 8 เรื่อง แบบวัดความสามารถการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติการทดสอบค่าที (t-test แบบ One –sample) ผลการวิจัยพบว่า 1) แบบฝึกการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจโดยใช้นิทานอีสปเป็นฐาน สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีคุณภาพอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.76) 2)ความสามารถทางการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจภายหลังการเรียนตามเกณฑ์ร้อยละ 75 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3)นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ( x̄= 3.98)
