การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตด้านโลจิสติกส์ด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กรณีศึกษา บริษัท พี อี เทคนิค จำกัด จังหวัดพิษณุโลก
ไม่มีรูปตัวอย่าง
ชื่อเรื่อง
การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตด้านโลจิสติกส์ด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กรณีศึกษา บริษัท พี อี เทคนิค จำกัด จังหวัดพิษณุโลก
ชื่อเรื่องอื่น
Reducing Logistics Cost and Efficiency Management with Mathematical Model of Auto Part Industry A Case Study: P.E Technic Co.,Ltd in Phitsanulok Province
ผู้แต่ง
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
ไม่มีรูปตัวอย่าง
ปีที่เผยแพร่
2563
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
ประเภทของทรัพยากร
วิจัย/Research
ชนิดของไฟล์ข้อมูล
ภาษา
tha
หน่วยงานที่เผยแพร่
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ผู้ครอบครองสิทธิ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
สิทธิ์ในการใช้งาน
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
กลุ่มข้อมูล
ชื่อเรื่อง
การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตด้านโลจิสติกส์ด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กรณีศึกษา บริษัท พี อี เทคนิค จำกัด จังหวัดพิษณุโลก
ชื่อเรื่องอื่น
Reducing Logistics Cost and Efficiency Management with Mathematical Model of Auto Part Industry A Case Study: P.E Technic Co.,Ltd in Phitsanulok Province
ผู้แต่ง
ผู้แต่งร่วม
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์
หน่วยงานที่สังกัด
มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญา
เนื้อเรื่องย่อ/สาระสังเขป
งานวิจัยนี้ได้เสนอการลดต้นทุนการผลิตด้านโลจิสติกส์ด้านการผลิต ซึ่งจะพิจารณาการจัดตารางการผลิตโดยคำนึงถึงข้อจำกัดของทรัพยากร (Finite Capacity Scheduling System: FCS System) สำหรับการทำงานประกอบที่เป็นระบบการผลิตแบบต่อเนื่องกันและมีกำหนดส่งวันเดียวกัน ซึ่งการจัดตารางการผลิตนี้จะประกอบไปด้วย 2 ขั้นตอนหลักๆ คือ 1) การจัดลำดับของ Jobs จะพิจารณาจากลำดับชั้นของการจัดลำดับงาน (Hierarchical Dispatching Rule) 2) ใช้การโปรแกรมเชิงเส้น (linear Programming) เพื่อพิจารณาเวลาเริ่มผลิตที่เหมาะสมที่สุด ที่ทำให้ต้นทุนรวมน้อยที่สุด โดยต้นทุนรวมประกอบด้วยต้นทุนการส่งสินค้าช้ากว่ากำหนด ต้นทุนการเก็บรักษาสินค้า และต้นทุนการปรับเปลี่ยนเครื่องจักร ซึ่งจากการใช้ข้อมูลของบริษัทกรณีศึกษา พบว่าการจัดลำดับของ Jobs โดยพิจารณาจากลำดับชั้นของการจัดลำดับงาน และการใช้การโปรแกรมเชิงเส้นพิจารณาเวลาเริ่มผลิตที่เหมาะสมที่สุดนั้นส่งผลต่อประสิทธิภาพของการจัดตารางการผลิต นอกจากนี้ผู้วิจัยยังได้ใช้วิธีการค้นหาเฉพาะที่ (local Search Methodology) มาทดสอบประสิทธิภาพของการจัดลำดับการผลิตว่าจะสามารถปรับปรุงให้ดีขึ้นได้หรือไม่ ซึ่งพบว่าไม่สามารถปรับปรุงประสิทธิภาพของการจัดลำดับการผลิตได้ การจัดลำดับที่ดีที่สุดยังคงเป็นการใช้ EDD rule, การจัด Family Sequencing แบบ Level 3-2-1 และ Time Sequencing แบบ LPT Rule
รายละเอียด
การอ้างอิง
ผู้ให้ทุน
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
การอ้างอิง
ธณิดา โขนงนุช, อลงกรณ์ เมืองไหว, และ ธัชชัย เทพกรณ์. (2563). การเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิตด้านโลจิสติกส์ด้วยแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ของอุตสาหกรรมผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ กรณีศึกษา บริษัท พี อี เทคนิค จำกัด จังหวัดพิษณุโลก. มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม. https://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/493