สภาพปัญหาและแนวทางการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัยเขต 1
ไม่มีรูปตัวอย่าง
ไฟล์ข้อมูล
ปีที่เผยแพร่
2552
Journal Title
Journal ISSN
Volume Title
ประเภทของทรัพยากร
วิทยานิพนธ์/Thesis
ชนิดของไฟล์ข้อมูล
application/pdf
ภาษา
หน่วยงานที่เผยแพร่
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
ผู้ครอบครองสิทธิ์
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
สิทธิ์ในการใช้งาน
ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
ชื่อเรื่อง
สภาพปัญหาและแนวทางการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัยเขต 1
ชื่อเรื่องอื่น
Problems Conditions and Approaches on Supervision for Mainstreaming Schools in the Office of Sukhothai Education Area 1
ผู้แต่ง
ผู้แต่งร่วม
อาจารย์ที่ปรึกษา
หน่วยงานที่สังกัด
ระดับปริญญา
ชื่อปริญญา
สาขาวิชา
มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญา
มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
เนื้อเรื่องย่อ/สาระสังเขป
การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและแนวทางการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม 2) เพื่อเปรียบเทียบสภาพปัญหาการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วมระหว่างผู้บริหาร ครูการศึกษาพิเศษ และครูผู้สอน 3) เพื่อศึกษาแนวทางการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัยเขต 1
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยสภาพปัญหาการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วมครั้งนี้ ได้แก่ ผู้บริหาร ครูการศึกษาพิเศษ และครูผู้สอน จำนวน 333 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการเปรียบเทียบความคิดเห็นสภาพปัญหาการนิเทศภายในใช้สถิติ (F-test) ส่วนการศึกษาแนวทางการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม กลุ่มตัวอย่างได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง ได้แก่ ผู้บริหาร ครูการศึกษาพิเศษ และครูผู้สอน จำนวน 12 คนเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการศึกษาพิเศษโดยตรง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสัมภาษณ์ ใช้วิธีการวิเคราะห์เนื้อหาเชิงพรรณนา
ผลการวิจัย พบว่า
1.สภาพปัญหาในการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วมตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครูการศึกษาพิเศษและครูผู้สอน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัยเขต1 ปีการศึกษา 2551 ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับปานกลาง เมื่อพิจารณาสภาพปัญหาแต่ละด้าน พบว่า ด้านการวัดผลและประเมินผลมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมาคือ ด้านสื่ออุปกรณ์การเรียนการสอน ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน และด้านหลักสูตรและการใช้หลักสูตร ตามลำดับ
2.เมื่อเปรียบเทียบค่าเฉลี่ยรายคู่ความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัญหาการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม ระหว่างผู้บริหาร ครูการศึกษาพิเศษ และครูผู้สอนในภาพรวม พบว่า ความคิดเห็นของผู้บริหารและครูผู้สอนมีความคิดเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ส่วนคู่อื่นๆ ไม่แตกต่างกัน
3.แนวทางการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม พบว่า ควรให้ความสำคัญกับเรื่องต่อไปนี้ คือ 1) ผู้ให้การนิเทศควรเอาใจใส่ในการปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง 2) บุคคลที่ทำหน้าที่นิเทศควรมีความรู้ความสามารถในเรื่องที่ตนเองจะต้องนิเทศคือมีศักยภาพในการแนะนำ ปรึกษา ช่วยเหลือแก่ผู้รับการนิเทศอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการและควรเป็นไปในลักษณะของกัลยาณมิตร 3) ผู้นิเทศควรมีแนวทางที่ชัดเจนให้กับผู้ปฏิบัติและไม่ทำให้ผู้ปฏิบัติเกิดความสับสน 4) หลังได้รับการนิเทศแล้วผู้ปฏิบัติควรนำข้อคิดเห็นหรือข้อแนะนำของผู้ให้การนิเทศมาปรับปรุงแก้ไขการดำเนินงานให้ดีขึ้นและผู้ให้การนิเทศควรติดตามการดำเนินงานหลังให้การนิเทศเพื่อให้ผู้รับการนิเทศกระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน 5) ควรมีการบันทึกการนิเทศเป็นรายลักษณ์อักษรทุกครั้งที่มีการนิเทศ 6) ควรมีการประสานความร่วมมือจากผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเพราะการจัดการเรียนร่วมจะสำเร็จได้ต้องให้แต่ละฝ่ายปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตนเองอย่างจริงจัง
รายละเอียด
หัวเรื่อง
การอ้างอิง
อิเล็กทรอนิกส์ลิงค์
แหล่งทุนหรือหน่วยงานที่สนับสนุนการทำงานวิจัย
การอ้างอิง
ศุภนิตย์ มิ่งไม้. (2552). สภาพปัญหาและแนวทางการนิเทศภายในสำหรับโรงเรียนจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุโขทัยเขต 1 [วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม]. https://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/256