คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/144
ค้นหา
21 ผลลัพธ์
ผลการค้นหา
รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ในรายวิชาสุขาภิบาลและการควบคุมคุณภาพอาหาร(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) ศิริพร ศิริอังคณากุลรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การวิเคราะห์ข้อมูลการให้บริการเครื่องมือวิทยาศาสตร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) วันเพ็ญ ตรงต่อกิจรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การปลดปล่อยและฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนสจากนาโนอาร์บูตินครีม(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) วิษณุ ธงไชย; พิชัย พูลประเสริฐ; เฉลิมพร ทองพูน; ยุทธศักดิ์ แช่มมุ่ย; ศิริรัตน์ พันธ์เรืองรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การวิจัยเพื่อพัฒนาชุดการเรียนการสอนวิชาปฏิบัติการเคมีอินทรีย์ 2(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) กุลยา จันทร์อรุณการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุดการพัฒนาการเรียนการสอนวิชาปฏิบัติการเคมีอินทรีย์ 2 ที่เน้นการเรียนการสอนแบบปฏิบัติการ (Laboratory approach) และทักษะกระทวนการทางวิทยาศาสตร์โยได้ทำการสร้างบทเรียนสำเร็จรูป 5 ชุดเนื้อหาของชุดการเรียนการสอนสอดคล้องกับหลักสูตรมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม พุทธศักราช 2550 โดยเน้นเนื้อหาส่วนหนึ่งในรายวิชาปฏิบัติการเคมีอินทรีย์ 2 และได้นำชุดการสอนนี้ทดลองใช้กับนักศึกษากลุ่มตัวอย่างในมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 40 คน เพื่อทดสอบประสิทธิภาพชองชุดการเรียนการสอนทั้ง 3ด้าน คือ ทางด้านเจตคติ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา และประสิทธิภาพของชุดบทเรียนสำเร็จรูป เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ชุดการเรียนการสอน แบบสอบถามวัดเจตคติ และแบบประเมินตนเองก่อนและหลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูป การวิเคราะห์ข้อมูลใชโปรแกรมสำเร็จรูป SPSS for Window ผลการวิจัยพบว่า นักศึกษษมีเจตคติที่ดีต่อบทเรียนสำเร็จรูปทุก ๆ ด้านอยู่ในระดับดี (3.5-4.19) เช่นด้านวัตถุประสงค์ เนื้อหากระชับ และชัดเจน ทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างใช้เหตุผลและความคิด การได้ใช้เครื่องมือ และได้ทำการทดลองด้วนตนเองทุกขั้นตอน ผลการวิเคราะห์ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษา พบว่า ผลสัมฤทธิ์ของนักศึกษาก่อนและหลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูปทุกชุดมีความแตกต่างกัน โดยหลังการใช้บทเรียนสำเร็จรูปนักศึกษามีการเยนรู้ที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 สำหรับประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูปแต่ละชุดอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดE1 : E2 = 75 : 75 โดยมีค่าเบี่ยงเบนได้±5% เมื่อ E1 เป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 75 ของคะแนนจากรายงานผลการศึกษาบทเรียน E2 เป็นคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 75 ของคะแนนจากแบบประเมินตนเองเมื่อสิ้นสุดการดำเนินกิจกรรมในบทเรียนสำเร็จรูปแต่ละชุดรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การบำบัดโลหะหนักที่ปนเปื้อนในดินด้วยพืชบริเวรพื้นที่กำจัดมูลฝอยชุมชน : กรณีศึกษาเทศบาลตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2556) สุพัตรา เอี่ยมนาค; สุขสมาน สังโยคะการศึกษานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อบำบัดโลหะหนักที่ปนเปื้อนในดินด้วยพืชบริเวณพื้นที่กำจัดมูลฝอยชุมชน จากพื้นที่กำจัดมูลฝอยชุมชน ของเทศบาลตำบลในเมือง อำเภอพิชัย จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยเก็บตัวอย่างหน้าดินจากพื้นที่กำจัดขยะ พบว่าดินมีการปนเปื้อนของตะกั่ว ทองแดง แคดเมียม สังกะสี และเหล็กเท่ากับ 235.94 271.55 18.06 602.06 และ 3,863.61 มิลลิกรัม/กิโลกรัม การศึกษานี้จะเปรียบเทียบความสามารถในการบำบัดโลหะหนักเมื่อใช้พืช 3 ชนิด ได้แก่ ดาวเรือง มะเขือ และหญ้าแฝก การทดลองทำในระดับห้องปฏิบัติการ และทำการเพาะเมล็ดพืชเป็นเวลา 3 สัปดาห์ จากนั้นจึงย้ายพืชมาปลูกในกระถางขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 8 นิ้ว ทำการเก็บตัวอย่างดินเพื่อวิเคราะห์หาปริมาณโลหะหนักทุกๆ 7 วัน รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 12 สัปดาห์ จากนั้นเก็บเกี่ยวพืชมาทำการวิเคราะห์หาปริมาณโลหะหนักที่สะสมในส่วนประกอบต่างๆ ของพืช ผลการศึกษาพบว่า ปริมาณตะกั่ว ทองแดง แคดเมียม สังกะสี และเหล็ก ในชุดการทดลองดาวเรืองลดลง 45.81% 19.96% 47.54% 50.90% และ 46.69% มะเขือลดลง 20.67% 50.14% 71.76% 51.59% และ 49.29% หญ้าแฝกลดลง 14.62% 45.12% 45.09% 51.37% และ 50.73% ตามลำดับ ซึ่งประสิทธิภาพการบำบัดโลหะหนักของพืช พบว่า ดาวเรืองมีคุณสมบัติในการบำบัดแคดเมียมได้ดีที่สุด รองลงมาคือ สังกะสี เหล็ก ทองแดง และตะกั่ว มะเขือบำบัดเหล็กได้ดีที่สุด รองลงมาคือสังกะสี ทองแดง แคดเมียม และตะกั่ว หญ้าแฝกบำบัดสังกะสีได้ดีที่สุด รองลงมาคือเหล็ก ทองแดง แคดเมียม และตะกั่ว สำหรับการสะสมโลหะหนักในส่วนต่างๆ ของพืช การสะสมโลหะหนักทั้ง 5 ชนิด มีแนวโน้มคล้ายคลึงกันคือ มีการสะสมโลหะหนักสูงสุดในราก รองลงมาคือใบ ลำต้น และ ดอก/ผล ตามลำดับ และในสภาวะที่มีการเติมสารก่อคีเลตหรืออีดีทีเอลงไปในดินช่วยส่งเสริมให้การบำบัดโลหะหนักด้วยพืชเกิดได้ดีขึ้นรายการ การเข้าถึงแบบเปิด ผลการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักศึกษาในรายวิชาชีวเคมีพื้นฐาน(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) รพิพรรณ จันทร์มะณีรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่องสมุนไพรในชีวิตประจำวันของนักศึกษารายวิชาวิถีสุขภาพระหว่างการสอนแบบบรรยายกับการสอนบรรยายร่วมกับการอบรม(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) มนตรา ศรีษะแย้มรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้วิชาฟิสิกส์ของคลื่นของนักศึกษาระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 2 โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) รัตน์ติพร สำอางค์รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การวิเคราะห์การพัฒนาตนเองของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) กัญญาวีร์ สมนึกการศึกษานี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อวิเคราะห์การพัฒนาตนเองของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากแบบบันทึกข้อมูลการพัฒนาตนเองของบุคลากร จากจำนวนบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จำนวน จำนวน 285 คน ผลการศึกษา พบว่า เมื่อเปรียบเทียบเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ระยะ 3 ปี ในแต่ละปีของบุคลากร สายวิชาการ มีเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร ในระยะเวลา 3 ปี พบว่า มีการได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ มากที่สุด คือ สำนักงานคณบดี มีการได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ รองลงมา คือ สาขาวิชาเคมี และมีการได้รับการจัดสรรเงินงบประมาณ น้อยที่สุด คือ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ และเมื่อนำมาเปรียบเทียบกับจำนวนบุคลากรไปราชการของบุคลากรคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในระยะเวลา 3 ปี พบว่า มีจำนวนบุคลากรไปราชการ มากที่สุด คือ สำนักงานคณบดี มีจำนวนบุคลากรไปราชการ รองลงมา คือ สาขาวิชาเคมี และมีจำนวนบุคลากรไปราชการ น้อยที่สุด คือ สาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ดังนั้น การสนับสนุนงบประมาณของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่นำไปใช้ ในการไปราชการ เพื่อพัฒนาตนเองของบุคลากรสายวิชาการ และสายสนับสนุน จึงเกิดประโยชน์ กับผู้ที่ไปพัฒนาตนเอง เพื่อนำความรู้ แนวคิด และแรงจูงใจ มาใช้ในการพัฒนาการเรียน การสอน และพัฒนาศักยภาพของคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยราชภัฏ พิบูลสงคราม ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การศึกษาระบบบริหารจัดการรายวิชาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) อุไรวรรณ รักผกาวงศ์การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาระบบบริหารการจัดการรายวิชาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยให้ผู้สอนสร้างสื่อการเรียนการสอนในลักษณะ E-learning โดยใช้บริการผ่านทางระบบบริหารจัดการรายวิชา ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม แล้วให้นักศึกษษที่เป็นกลุ่มตัวอย่างได้ทดลองใช้ พร้อมทั้งสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความสะดวกในการใช้บริการระบบบริหารจัดการรายวิชาของผู้สอน และศึกษาเจตคติของนักศึกษาที่มีต่อสื่อการเรียนการสอนที่ผู้สอนสร้างขึ้น โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลโดยการ แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า เจตคติของนักศึกษาที่มีต่อสื่อการเรียนการสอนที่ผู้สอนสร้างขึ้นในระบบการบริหารจัดการรายวิชา ผ่าเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ด้านการนำเสนอ ด้านเนื้อหา และด้านการนำไปใช้ ทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับเหมาะสมมาก โดยมีเจตคติที่ดีต่อสื่อการเรียนการสอนแต่ละด้านดังนี้ ระบบสามารถแสดงคะแนนที่หลังทำแบบทดสอบเสร็จ เนื้อหาบทเรียนมีความสอดคล่องกับจุดประสงค์ และสามารถส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เรียงตามลำดับ ความคิดเห็นของผู้สอน เกี่ยวกับความสะดวกในการใช้บริการระบบริหารจัดการรายวิชาด้านการจัดการของผู้สอน ด้านการประมวลผลของนักศึกษา ด้านความรับผิดชอบของนักศึกษาทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับเหมาสมมากที่สุด โดยมีความคิดเห็นต่อระบบบริหารจัดการรายวิชา ดังนี้สะดวกในการสร้างแบบทดสอบได้หลายวิธี และสร้างแบบทดสอบแบบสุ่มข้อสอบได้ สะดวกในการเรียกดูคะแนนนักศึกษา และสะดวกที่ให้นักศึกษาทำข้อสอบชุดเดียวได้มากกว่า 1 ครั้ง เรียงตามลำดับ
- «
- 1 (current)
- 2
- 3
- »