คณะครุศาสตร์

Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/131

ค้นหา

ผลการค้นหา

กำลังแสดง1 - 6 of 6
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    ความพึงพอใจและผลสะท้อนจากการเรียนรู้กิจกรรมในวิชาจิตตปัญญาศึกษา
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) ณิรดา เวชญาลักษณ์
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การวิจัยและพัฒนาชุดฝึกอบรมเพื่อการพัฒนาและฝึกอบรมครู เรื่องการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2547) วิราพร พงศ์อาจารย์
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    ปัจจัยเชิงสาเหตุของการมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการเป็นประชากรอาเซียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) อนุ เจริญวงศ์ระยับ; วีรวรรณ วงศ์ปั่นเพ็ชร
    การวิจัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาปัจจัยเชิงสาเหตุของการมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการเป็นประชากรอาเซียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น 2) เพื่อทดสอบความไม่แปรเปลี่ยนของปัจจัยเชิงสาเหตุของการมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการเป็นประชากรอาเซียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น ระหว่างกลุ่มนักเรียนที่ศึกษาในโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน กับกลุ่มนักเรียนที่ศึกษาในโรงเรียนที่ไม่เข้าร่วมโครงการ เก็บข้อมูลจากนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 436 คน โดยเก็บข้อมูลด้านคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการเป็นประชากรอาเซียน การได้รับข่าวสาร การใฝ่รู้ใฝ่เรียน และการมีภูมิคุ้มกันตนเอง วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้การวิเคราะห์เส้นทางและการวิเคราะห์กลุ่มพหุ ผลการวิจัยพบว่า ทั้งการได้รับข่าวสาร การใฝ่รู้ใฝ่เรียน และการมีภูมิคุ้มกันตนเองส่งอิทธิพลทางตรงต่อคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการเป็นประชากรอาเซียน และพบว่ารูปแบบของโมเดลไม่แปรเปลี่ยนระหว่างกลุ่มนักเรียนที่เข้าร่วมโครงการพัฒนาสู่ประชาคมอาเซียน กับกลุ่มนักเรียนที่ศึกษาในโรงเรียนที่ไม่เข้าร่วมโครงการ แต่พบว่าเส้นทางอิทธิพลจากการใฝ่รู้ใฝ่เรียนถึงคุณลักษณะที่พึงประสงค์ในการเป็นประชากรอาเซียน และการได้รับข่าวสารถึงการมีภูมิคุ้มกันตนเองมีขนาดอิทธิพลที่แตกต่างกัน และค่าเฉลี่ยตัวแปรแฝงการมีภูมิคุ้มกันตนเองมีความแตกต่างกัน
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก ในจังหวัดสุโขทัย
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) สุรีย์พร เพ็งเลีย; ภาวิดา มหาวงศ์
    การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก จังหวัดสุโขทัยนี้เป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการแบบมีส่วนร่วม (Participatory Action Research) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและศึกษาผลการใช้รูปแบบการสร้างชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) สำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก จังหวัดสุโขทัย เครื่องมือในการวิจัยครั้งนี้แบ่งเป็นเครื่องมือทดลอง ได้แก่ รูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพสำหรับโรงเรียนขนาดเล็ก จังหวัดสุโขทัยประกอบด้วย หลักการหรือคำนิยาม จุดมุ่งหมาย ขั้นตอนการประยุกต์ใช้ และเครื่องมือเก็บรวบรวมข้อมูลในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ 1) แบบทดสอบความเข้าใจชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) สำหรับโรงเรียนโรงเรียนขนาดเล็ก จังหวัดสุโขทัย กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือ ผู้บริหารสถานศึกษาจำนวน 2 ท่าน ครูผู้สอนจำนวน 18 ท่านของโรงเรียนบ้านดงเดือยและโรงเรียนบ้านดอนสาโรง ตำบลดงเดือย อำเภอกงไกรลาศ จังหวัดสุโขทัยคัดเลือกด้วยวิธีการคัดเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive sampling) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที (t-test independent) ผลการศึกษาการใช้รูปแบบฯ ตามตัวชี้วัดที่ 1 การทดสอบความรู้เกี่ยวกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของบุคคลากรโรงเรียนโรงเรียนขนาดเล็ก จังหวัดสุโขทัยมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 13.15 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ .89 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนของบุคลากรก่อนและหลังการใช้รูปแบบฯ พบว่า คะแนนหลังการใช้รูปแบบฯ สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบฯ อย่างมีนัยสําคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ตัวชี้วัดที่ 2 การประเมินวงจรชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดสุโขทัย พบว่า วงจรชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดสุโขทัยในมิติภาวะผู้นําร่วมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.84 มิติการเรียนรู้และพัฒนาวิชาชีพมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.75 มิติการมีวิสัยทัศน์ร่วมมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.63 มิติการทํางานเป็นทีมแบบร่วมแรงร่วมใจและมิติสภาพแวดล้อมเชิงบวกมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.56 ตามลําดับ ตัวชี้วัดที่ 3 การประเมินการสร้างวัฒนธรรมแห่งกัลยาณมิตรของโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดสุโขทัย พบว่า วัฒนธรรมแห่งกัลยาณมิตรของโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดสุโขทัยในมิติการสนับสนุนจากผู้นํามีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.07 มิติการเปิดรับในการริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.89 มิติความไว้วางใจและความนับถือมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.76 มิติกัลยาณมิตรทางวิชาการมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.66 ตามลําดับ สรุปได้ว่า การพัฒนารูปแบบชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (Professional Learning Community) สำหรับโรงเรียนขนาดเล็กในจังหวัดสุโขทัยมีองค์ประกอบสําคัญ 5 ประการได้แก่ หลักการและแนวคิด จุดมุ่งหมาย วงจรชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ขั้นตอนและกิจกรรม และการสะท้อนผลหรือข้อมูลย้อนกลับ มีตัวชี้วัดคุณภาพของรูปแบบที่สําคัญ 3 ประการได้แก่ ความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพของบุคลากร วงจรชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ 5 มิติ และวัฒนธรรมแห่งกัลยาณมิตรของโรงเรียนขนาดเล็ก 4 มิติ ถือเป็นกระบวนการพัฒนาศักยภาพครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีความเป็นมืออาชีพ มีมาตรฐานวิชาชีพและมีจิตวิญญาณความเป็นครู มีการปฏิบัติหน้าที่สอดคล้องกับบริบทความต้องการของท้องถิ่น เกิดความตระหนักถึงคุณค่าของตนเอง ริเริ่มการประยุกต์ใช้ของชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพเป็นเครื่องมือในการยกระดับศักยภาพการจัดการเรียนรู้แก่ผู้เรียนในศตวรรษที่ 21