คณะวิทยาการจัดการ

Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/148

ค้นหา

ผลการค้นหา

กำลังแสดง1 - 3 of 3
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การบริหารและจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2547) ชุลีรัตน์ จันทร์เชื้อ
    การวิจัยเรื่อง การบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าและแบบสำรวจการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อนำไปเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรฐานการบริหารและการจัดการเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบจำลองการบริหารและการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยปรับแต่งเป็นแบบสำรวจเพื่อใช้เก็บข้อมูลภาคสนามและแบบสอบถามที่นำไปเก็บข้อมูลจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภู่หินร่องกล้า บุคคลผู้ปฏิบัติงานในอุทยานฯ นักท่องเที่ยว ประชาชนชุมชนท้องถิ่น ผลการศึกษาพบว่า อุทยานแห่งชาติภู่หินร่องกล้ามีความสามารถในการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในระดับที่สูง มีเพียง 4 กิจกรรมเท่านั้นที่อุทยานฯยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนความสามารถในการบริหารและการจัดการเกี่ยวกับส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคลากรในองค์กร, นักท่องเที่ยว และชุมชนท้องถิ่นในเขตอุทยาน อยู่ในระดับดีพอสมควรทำให้เชื่อมั่นได้ว่าแบบสำรวจและแบบสอบถามการบริหารและการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะสามารถเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรฐานการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้
  • รายการ
    รูปแบบการสื่อสารและการมีส่วนรวมของชุมชนที่ส่งผลต่อการจัดการ แหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2566) สุภาพร กลิ่นนาค; ธัมมะทินนา ศรีสุพรรณ; ประสิทธิชัย นรากรณ์
    การวิจัย เรื่อง รูปแบบการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของชุมชน ที่ส่งผลต่อการจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษารูปแบบการสื่อสารของชุมชนที่ส่งผลต่อการจัดการแหล่งท่อง เที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก 2) เพื่อศึกษาการมีส่วนร่วมของชุมชนที่ส่งผลต่อการจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องกล้า อำเภอนครไทยจังหวัดพิษณุโลก 3) เพื่อศึกษารูปแบบการสื่อสารและการมีส่วนร่วมของชุมชุนที่ส่งผลต่อการจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องกล้า อำเภอนครไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ประชาชนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านร่องกล้า หมู่ที่ 10 ตำบลเนินเพิ่ม อำเภอนครไทยจังหวัดพิษณุโลกที่มีอายุ 18 ขึ้นไป จ านวน 186 คน จังหวัดพิษณุโลก โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการวิจัย วิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติการถดถอยแบบพหุคูณ ผลการวิจัยพบว่า รูปแบบการสื่อสารด้านการสื่อสารแบบบนลงล่าง ด้านการสื่อสารแบบล่างขึ้นบน ด้านการสื่อสารแบบแนวนอน ด้านการสื่อสารแบบแนวไขว้ และการมีส่วนร่วมด้านการมีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้านการมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน และด้านการมีส่วนร่วมในการรับผลประโยชน์ มีผลต่อการจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก สำหรับการวิเคราะห์ถดถอยแบบพหุคูณระหว่างรูปแบบการสื่อสารและการมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อการจัดการแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน ชุมชนบ้านร่องกล้า อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลกสามารถพยากรณ์ได้ถูกต้องร้อยละ 27.60
  • รายการ
    การพัฒนาการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของชุมชนบ้านนาเมือง อําเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2564) อรวรรณ ไพโรจนวุฒิพงศ์; บุษบา หินเธาว์; พิชญาพร ประครองใจ; ธิดารัตน์ วุฒิศรีเสถียรกุล
    การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาวิถีชีวิต วัฒนธรรม ประเพณีของคนส่วนใหญ่ในชุมชนบ้านนาเมือง อําเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เพื่อการพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวชุมชนบ้านนาเมือง อําเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก และเพื่อการพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและระบบสารสนเทศเพื่อประชาสัมพันธ์วัฒนธรรมและประเพณีของชุมชนบ้านนาเมือง อําเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก ผู้วิจัยใช้การวิจัยเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยดําเนินการตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2562 - พฤษภาคม 2563 และใช้กระบวนการวิจัยในการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีแบบสัมภาษณ์ แบบสังเกตการอย่างมีส่วนร่วมกับชุมชนมีตัวแทนชุมชน ร่วมเป็นผู้ให้ข้อมูลหลัก การมีส่วนร่วมในกิจกรรมทอผ้าและการประกอบอาหารพื้นถิ่น ผลการวิจัยพบว่า วิถีชีวิตวัฒนธรรมและประเพณีของคนส่วนใหญ่ในชุมชนบ้านนาเมืองเกี่ยวข้องกับธรรมชาติ โดยมีการดํารงชีวิตความสัมพันธ์ทางสังคมและความเป็นอยู่ได้รับคําแนะนําเกี่ยวกับความเชื่อและพิธีกรรมของสิบสองฮีต (เดือน) สิบสี่กงควบคุมจริยธรรมศีลธรรมและการปฏิบัติของหมู่บ้านเพื่อการดํารงอยู่อย่างสงบสุข สามารถทําได้โดยการสืบทอดวิถีชีวิตวัฒนธรรมประเพณีของชาวลาวที่บ้านนาเมือง อําเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจาก 1. ระบบครอบครัว 2. ความเชื่อเรื่องผีหรือสิ่งเหนือธรรมชาติ 3. ความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของสมาชิกในชุมชน 4. ความเข้้มแข็งของวัฒนธรรม / ประเพณีที่สําคัญของชุมชน 5. ความเชื่อของพระพุทธศาสนาและมีความสัมพันธ์กับทางธรรมชาติสามรูปแบบ คือ 1. สมาชิกในครอบครัวที่เป็นปัจจัยหลักในการถ่ายทอดทางมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามพันธุกรรม 2. การเก็บรักษาข้อมูลในท้องถิ่นของนักวิชาการและผู้รู้ 3. ชุมชนวัดและสถานศึกษาที่มีส่วนร่วมในมรดกทางวัฒนธรรม ประเพณีของหมู่บ้าน. รูปแบบการท่องเที่ยวบ้านนาเมืองคือ “การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและศิลปะประเพณีและวิถีชีวิต” โดยมีองค์ประกอบ เช่น ทรัพยากรธรรมชาติ (น้ําตกภูเขาทิวทัศน์โดยรอบ) ความรู้ท้องถิ่น (ผ้าทอมือบ้านนาเมือง - อาหารพื้นบ้าน) และจัดกิจกรรมท่องเที่ยว (ปั่นนจักรยานสัมผัสวัฒนธรรมชนบทชมสะพานไม้กลางทุ่งนาชมการสาธิตการทอผ้าฝากทํางานศิลปาชีพผ้าทอมือ (บ้านนาเมือง) ร่วมสืบสานประเพณีบ้านนาเมืองทดลอง ด้านการเกษตรเพาะกล้า / ล่าปู / กบพูดและกิจกรรมทําอาหารพื้นบ้านปูผัด / ผัดเผ็ดกบ) และเพื่อสร้างช่องทางการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวและประเพณีของชุมชนหน้าเมือง มีการใช้กระบวนการวิจัยร่วมกับชุมชนในฐานะผู้ให้ข้อมูลหลัก ตลอดจนการออกแบบเส้นทางและกิจกรรมการท่องเที่ยวร่วมกัน เครื่องมือวิจัยที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ การสัมภาษณ์เชิงลึกการสนทนากลุ่มสัมภาษณ์แบบไม่เป็นทางการการประชุมกลุ่มการสังเกตแบบสอบถามและการสํารวจแหล่งท่องเที่ยวงานเทศกาลประเพณีและวัฒนธรรมในชุมชนบ้านนาเมือง และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อใช้ข้อมูลเพื่อกําหนดโครงสร้างข้อมูลภายในเว็บไซต์และวางผังรูปแบบของหน้าเว็บได้อย่างเหมาะสม