วิทยานิพนธ์
Permanent URI for this collectionhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/165
ค้นหา
รายการ เมทาเดทาเท่านั้น การบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์บนฐานวิถีชีวิตใหม่ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2566) ฉัตรชัย บัณฑิตรัตน์; โชติ บดีรัฐ; ศรชัย ท้าวมิตรการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลกระทบของเหตุการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) การบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรม และแนวทางการบริหารทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์บนฐานวิถีชีวิตใหม่ ใช้รูปแบบการวิจัยแบบผสมผสานทั้งเชิงปริมาณและคุณภาพ โดยวิจัยกลุ่มชาติพันธุ์ 2 กลุ่มคือ อาข่า และลาหู่ ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย 6 อำเภอ พบว่า เหตุการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 มีผลกระทบต่อการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ดังกล่าวในระดับมาก สอดคล้องกับงานวิจัยเชิงคุณภาพ เรียงผลกระทบจากมากไปหาน้อย คือ ด้านการประกอบอาชีพหรือทำงาน ด้านงานประเพณีและเทศกาลสำคัญ การถ่ายทอดกระบวนการเรียนรู้ ด้านการสร้างความสัมพันธ์ทางสังคม และด้านการดำรงวิถีชีวิต ทำให้วิถีความเป็นอยู่เปลี่ยนแปลงเข้าสู่ฐานวิถีชีวิตใหม่ กลุ่มชาติพันธุ์ทั้ง 2 กลุ่มมีการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมอยู่ในระดับมาก ส่วนภาครัฐ หน่วยงานในท้องถิ่น และภาคเอกชนร่วมกันบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ในระดับปานกลาง สอดคล้องกับงานวิจัยเชิงคุณภาพ เรียงลำดับการบริหารจัดการจากมากไปหาน้อย คือ ด้านวิธีการจัดการ การตลาด บุคลากร การสนับสนุนจากภาครัฐ วัตถุดิบ และด้านงบประมาณ อย่างไรก็ตามด้วยข้อจำกัดของภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร การไร้สัญชาติ ไม่มีสิทธิ์ในที่ดินทำกิน และพื้นที่อาศัยของกลุ่มชาติพันธุ์ที่อยู่ห่างไกลเมือง โดยเฉพาะบนดอยพื้นสูงที่ ทำให้การช่วยเหลือในหลายพื้นที่ยังไม่พอเพียง จากข้อเสนอแนะแนวทางการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์บนฐานวิถีชีวิตใหม่ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงรายในแต่ละด้าน พบว่า ส่วนใหญ่มุ่งเน้นการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมให้เกิดความยั่งยืนโดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน และการใช้เทคโนโลยี ผู้วิจัยจึงใช้แนวคิดการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วมออกแบบแนวทางการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์บนฐานวิถีชีวิตใหม่ในเขตพื้นที่จังหวัดเชียงราย ประกอบด้วย 1. การบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมเชิงนโยบาย ภาครัฐควรทบทวนและกำหนดนโยบายเพื่อให้ความช่วยเหลือกลุ่มชาติพันธุ์วางนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาหลักๆ ที่ทำให้กลุ่มชาติพันธุ์ไม่สามารถเข้าถึงสวัสดิการของรัฐได้ โดยใช้หลักการ “จริงจัง จริงใจ ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” 2. การบริหารจัดการทุนวัฒนธรรมด้วยกระบวนการมีส่วนร่วม โดยวิเคราะห์ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และสร้างการมีส่วนร่วมโดยเทคนิคการมีส่วนร่วมในแต่ละระดับตั้งแต่ 1) การให้ข้อมูล (Inform) 2) การปรึกษาหารือ (Consult) 3) การเข้ามาเกี่ยวข้อง (Involve) และ 4) ความร่วมมือ (Collaborate)รายการ เมทาเดทาเท่านั้น รูปแบบการจัดการทุนทางวัฒนธรรมเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก อย่างยั่งยืนของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยทรงดำในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2566) อัชรี กุลบุตร; ภาสกร ดอกจันทร์; กัมปนาท วงษ์วัฒนพงษ์การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาสภาพการจัดการทุนทางวัฒนธรรม และแนวทางการจัดการทุนทางวัฒนธรรม พร้อมทั้งนำเสนอรูปแบบการจัดการทุนทางวัฒนธรรมกับการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืนของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยทรงดำในเขตพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง วิธีการศึกษาเป็นการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มชาติพันธุ์ไทยทรงดำในจำนวน 5 แห่ง/จังหวัด ตีความข้อมูลจากเอกสารกับการสัมภาษณ์เชิงลึก การสังเกตการณ์แบบไม่มีส่วนร่วม และนำข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาวิเคราะห์เนื้อหา การตรวจสอบแบบสามเส้า จากกลุ่มตัวอย่างการสอบถามผู้ทรงคุณวุฒิด้านวัฒนธรรมชุมชน ด้านการบริหาร และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เน้นเรื่องทุนทางวัฒนธรรมส่งผลอย่างไรในการพัฒนาและมีกระบวนการอย่างไรที่จะเสริมสร้างเศรษฐกิจในกับชุมชน สัมภาษณ์เชิงลึกในประเด็นที่สำคัญ ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการจัดการทุนทางวัฒนธรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ไทยทรงดำในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง มีข้อมูล Input คือ ชุมชนควรมีการน้อมนำหลักทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 หลัก “รู้ รัก สามัคคี” และนำทุนทางวัฒนธรรมที่สัมผัสได้ ได้แก่ วิถีชีวิตด้านที่อยู่อาศัยและสิ่งปลูกสร้าง ด้านการแต่งกาย ด้านอาหาร ด้านเครื่องมือเครื่องใช้ และทุนทางวัฒนธรรมที่สัมผัสไม่ได้ ได้แก่ วิถีชีวิตด้านภาษา ด้านพิธีกรรม ความเชื่อ ด้านศิลปะการแสดง และด้านวัฒนธรรมประเพณี โดยมีการจัดการ Process คือ การอนุรักษ์ทุนทางวัฒนธรรม การสืบสานทุนทางวัฒนธรรม การพัฒนาและต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมเพื่อเสริมเศรษฐกิจฐานราก และการสร้างเครือข่ายและการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน และมีกระบวนการดำเนินงานตามแบบ “Thai Song Dam” Output คือ ประชากรกลุ่มชาติพันธุ์ไทยทรงดำมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีการอนุรักษ์ สืบสานวิถีวัฒนธรรมและอัตลักษณ์ไทยทรงดำ มีฐานเศรษฐกิจและทุนชุมชนที่เข้มแข็ง และแบรนด์ Brand Image ไทยทรงดำ