การประเมินองค์ประกอบทางเคมีของสารสกัดต่างๆ จากผักมะไห่และสมบัติการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ

dc.titleการประเมินองค์ประกอบทางเคมีของสารสกัดต่างๆ จากผักมะไห่และสมบัติการออกฤทธิ์ทางชีวภาพ
dc.title.alternativeEvaluation of chemical compositions of various extracts from Momordica 'Ma Hai' and their biological activities
dc.contributor.authorกีรติ ตันเรือน
dc.contributor.otherพิสิษฐ์ พูลประเสริฐ
dc.departmentคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
dc.typeวิจัย/Research
dc.date.issued2560
dc.publisherมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
dc.description.abstractผักมะไห่หรือผักไห่ (Momordica 'Ma Hai') เป็นพืชชนิดหนึ่งในวงศ์ Cucurbitaceae ที่สามารถรับประทานได้ โดยนิยมนำส่วนของยอดไปใช้เป็นอาหารอย่างแพร่หลาย อย่างไรก็ตามพบว่ายังไม่มีการรายงานถึงองค์ประกอบทางเคมีและสมบัติทางชีวภาพของพืชชนิดนี้ ดังนั้นในงานวิจัยนี้จึงได้ตรวจสอบองค์ประกอบทางเคมี ฤทธิ์ด้านสารอนุมูลอิสระและฤทธิ์ด้านเชื้อจุลินทรีย์ของน้ำมันหอมระเหย สารสกัดเมทานอล อะซิโตนและเอทิลอะซิเตทของผักมะไห่ โดยน้ำมันหอมระเหยของผักมะไห่ได้จากการสกัดใบและก้านแห้งด้วยการกลั่นไอน้ำและแยกชั้นด้วยไดคลอโรมีเทนแล้วทำการระเหยไดคลอโรมีเทนออก ส่วนสารสกัดเมทานอล อะซิโตนและเอทิลอะซิเตทได้จากการนำตัวอย่างใบและก้านแห้งมาแช่ด้วยเมทานอล อะซิโตนหรือเอทิลอะซิเตท เป็นเวลา 12 ชั่วโมง จากนั้นนำมากรองและระเหยด้วยเครื่องกลั่นระเหยสุญญากาศ องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยวิเคราะห์ด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟีแมสสเปกโทรมทรี ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและฟลาโวนอยด์ทั้งหมดวิเคราะห์ด้วยวิธี folin-ciocalteu และ aluminium chloride colorimetric ตามลำดับ ทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธี 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl (DPPH) scavenging และ Ferric reducing antioxidant power (FRAP) และทดสอบฤทธิ์ต้านจุลินทรีย์ก่อโรค 6 ชนิด (Bacillus cereus, B. subtilis, Candida albicans, Escherichia coli, Pseudomonas fluorescens และ Salmonella typhi) ด้วยวิธี paper disc-diffusion จากการวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีของน้ำมันหอมระเหยจากผักมะไห่ด้วยเทคนิคแก๊สโครมาโทกราฟี–แมสสเปกโทรมทรีพบว่าน้ำมันหอมระเหยจากผักมะไห่มีองค์ประกอบที่ระเหยได้ 7 ชนิด โดยพบ anethole ซึ่งเป็นสารให้กลิ่นในอุตสาหกรรมหลายชนิดเป็นองค์ประกอบหลัก และน้ำมันหอมระเหยจากผักมะไห่ยังพบปริมาณสารประกอบฟีนอลิกและสารประกอบฟลาโวนอยด์ทั้งหมดสูงที่สุด คือ 65.6 มิลลิกรัมสมมูลกรดแกลลิกต่อกรัมสารสกัดและ 42.6 มิลลิกรัมสมมูลเคอเซทินต่อกรัมสารสกัด ตามลำดับ ขณะที่พบว่าสารสกัดเอทิลอะซิเตทมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูงที่สุดโดยมีค่าความเข้มข้นในการยับยั้งที่ 50 เปอร์เซ็นต์เท่ากับ 0.95 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตรและมีค่า FRAP value เท่ากับ 16.8 มิลลิกรัมสมมูลกรดแกลลิกต่อกรัมสารสกัด นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดจากผักไห่มีความสามารถในการยับยั้งเชื้อจุลินทรีย์ทดสอบได้ทุกชนิด โดยน้ำมันหอมระเหยมีฤทธิ์ยับยั้งจุลินทรีย์ทดสอบได้ดีกว่าสารสกัดจากตัวทำละลายชนิดอื่น ดังนั้นสารสกัดจากผักไห่จึงมีความเป็นไปได้ที่จะพัฒนาเป็นสารให้กลิ่นและสารด้านเชื้อจุลินทรีย์ในอาหารและเครื่องสำอางต่อไปในอนาคต
dc.subjectเคมีวิเคราะห์
dc.subjectชีวเคมี
dc.keywordsผักมะไห่
dc.keywordsองค์ประกอบทางเคมี
dc.keywordsฤทธิ์ทางชีวภาพ
dc.format.mimetypeapplication/pdf
dc.identifier.urihttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/338
dc.rights.holderมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
dc.rightsผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)
dc.description.sponsorshipมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
dc.language.isotha

ไฟล์ข้อมูล

Original bundle

กำลังแสดง1 - 1 of 1
ไม่มีรูปตัวอย่าง
ชื่อ:
Kirati.pdf
ขนาด:
1.23 MB
รูปแบบ:
Adobe Portable Document Format

กลุ่มข้อมูล