การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนในการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
dc.title | การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนในการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 | |
dc.title.alternative | The Development of Learning Activities Using Storyline Method Enhancing Learning Achievement and Retention in History for Prathomsuksa 5 Students | |
dc.contributor.author | ชฎาพร สุขสงค์ | |
dc.contributor.advisor | ธัญณาพร ก่องขันธ์ | |
dc.type | วิทยานิพนธ์/Thesis | |
dc.thesis.department | คณะครุศาสตร์ | |
dc.thesis.level | ปริญญาโท | |
dc.thesis.degreename | ครุศาสตรมหาบัณฑิต | |
dc.thesis.discipline | หลักสูตรและการสอน | |
dc.thesis.grantor | มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม | |
dc.date.issued | 2565 | |
dc.publisher | มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม | |
dc.description.abstract | งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) สร้างและหาประสิทธิภาพของการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและความคงทนในการเรียนรู้ วิชาประวัติศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์โดยการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 กับเกณฑ์ร้อยละ 80 3) ศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ของนักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ ดำเนินการวิจัย 2 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การสร้างและหาประสิทธิภาพของกิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ ขั้นตอนที่ 2 การศึกษาผลการใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster random sampling) จำนวน 24 คน ทดลองเป็นเวลา 3 สัปดาห์ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย (x̄ ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าสถิติ t-test (one sample) และ t-test (Dependent) ผลการวิจัยพบว่า 1) กิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ ประกอบด้วยคู่มือการใช้กิจกรรม โดยมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x̄= 4.89 , S.D. = 0.15) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.27/83.61 2) นักเรียนที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และ 3) นักเรียนมีความคงทนในการเรียนรู้ | |
dc.subject | ประวัติศาสตร์--การศึกษาและการสอน(ประถมศึกษา) | |
dc.subject | กิจกรรมการเรียนการสอน | |
dc.keywords | กิจกรรมการเรียนรู้แบบสตอรี่ไลน์ | |
dc.keywords | ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน | |
dc.keywords | วิชาประวัติศาสตร์ | |
dc.identifier.uri | https://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/451 | |
dc.rights.holder | มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม | |
dc.rights | ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0) | |
dc.language.iso | tha | |
dc.relation.uri | http://dcms.thailis.or.th/dcms/dccheck.php?Int_code=22&RecId=1729&obj_id=8844 |