การพัฒนาเกมแอปพลิเคชัน เพื่อส่งเสริมความคงทนในการจำคำศัพท์ HSK ระดับที่ 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ไม่มีรูปตัวอย่าง

ชื่อเรื่อง

การพัฒนาเกมแอปพลิเคชัน เพื่อส่งเสริมความคงทนในการจำคำศัพท์ HSK ระดับที่ 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่องอื่น

The Development of Games Application to Promote Persistence of HSK Level 2 Vocabulary for Grade 11 Students

อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

ไม่มีรูปตัวอย่าง

ปีที่เผยแพร่

2565

Journal Title

Journal ISSN

Volume Title

ประเภทของทรัพยากร

วิทยานิพนธ์/Thesis

ชนิดของไฟล์ข้อมูล

ภาษา

tha

หน่วยงานที่เผยแพร่

มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

ผู้ครอบครองสิทธิ์

มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

สิทธิ์ในการใช้งาน

ผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

กลุ่มข้อมูล

ชื่อเรื่อง

การพัฒนาเกมแอปพลิเคชัน เพื่อส่งเสริมความคงทนในการจำคำศัพท์ HSK ระดับที่ 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อเรื่องอื่น

The Development of Games Application to Promote Persistence of HSK Level 2 Vocabulary for Grade 11 Students

ผู้แต่งร่วม

อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์

หน่วยงานที่สังกัด

ระดับปริญญา

มหาวิทยาลัยที่ประสาทปริญญา

มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

เนื้อเรื่องย่อ/สาระสังเขป

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาคุณภาพของเกมแอปพลิเคชัน 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน 3) ศึกษาความคงทนในการจำคำศัพท์ภาษาจีน 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเกมแอปพลิเคชัน กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 25 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินคุณภาพของเกมแอปพลิเคชัน แบบวัดผลสัมฤทธิทางการเรียน แบบวัดความคงทนในการจำคำศัพท์ และแบบสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t-test dependent samples One-Way ANOVA และค่าร้อยละ ผลการวิจัย พบว่า 1) คุณภาพของเกมแอปพลิเคชัน ด้านเนื้อหาอยู่ในระดับ ดีมาก (x̄= 4.60, S.D.= 0.61) ด้านเทคนิค อยู่ในระดับ ดี (x̄= 4.27, S.D.= 0.45) 2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 (t-test = 11.62) 3) ความคงทนในการจำคำศัพท์ พบว่าหลังเรียนและหลังเรียน 7 วัน นักเรียนได้คะแนนแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ นักเรียนยังมีความคงทนในการจำคำศัพท์ เมื่อทดสอบหลังเรียน 7 วัน และหลังเรียน 30 วัน พบว่านักเรียนได้คะแนนแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญ โดยคะแนนหลังเรียน 30 วัน ต่ำกว่าคะแนนหลังเรียน 7 วัน นั้นหมายความว่า หลังเรียน 30 วัน ความคงทนในการจำคำศัพท์ของนักเรียนลดลง โดยค่าเฉลี่ยความคงทนในการจำคำศัพท์ของนักเรียนหลังเรียน 7 วัน ลดลงไม่เกิน 10 % เท่ากับ 9.88 และค่าเฉลี่ยความคงทนในการจำคำศัพท์ของนักเรียนหลังเรียน หลัง 30 วัน ลดลงไม่เกิน 30 % เท่ากับ 12.32 และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเกมแอปพลิเคชัน อยู่ในระดับมาก (x̄= 4.38, S.D.= 0.08)

รายละเอียด

การอ้างอิง

ผู้ให้ทุน

การอ้างอิง

พัชรี ปุ่มสันเทียะ. (2565). การพัฒนาเกมแอปพลิเคชัน เพื่อส่งเสริมความคงทนในการจำคำศัพท์ HSK ระดับที่ 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 [วิทยานิพนธ์ครุศาสตรมหาบัณฑิต, มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม]. https://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/385

Endorsement

Review

Supplemented By

Referenced By