คณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร
Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/152
ค้นหา
19 ผลลัพธ์
ผลการค้นหา
รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรั่มจากน้ำมันรำข้าวโดยการใช้ ระบบไมโครอิมัลชันเพื่อเป็นกลยุทธ์ในการสร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่ม(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) ศนิพร จันทร์บุรีการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรั่มจากน้ำมันรำข้าวโดยระบบไมโครอิมัลชัน ในเบื้องต้นได้มีการเปรียบเทียบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของน้ำมันรำข้าวจากข้าวไรซ์เบอร์รี่และข้าวหอมมะลิด้วยวิธี DPPH จากผลการทดลองพบว่าน้ำมันรำข้าวจากข้าวไรซ์เบอร์รี่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่สูงกว่าน้ำมันรำข้าวจากข้าวหอมมะลิอย่างมีนัยสำคัญ (ประมาณ 2 เท่า) (P<0.05) จากนั้นนำมาพัฒนาระบบไมโครอิมัลชันประกอบด้วยน้ำมันรำข้าวจากข้าวไรซ์เบอร์รี่, Eumulgin® VL 75 และ Cetiol® HE ซึ่งทำหน้าที่เป็นวัฏภาคน้ำมัน วัฏภาคสารลดแรงตึงผิว และวัฏภาคสารลดแรงตึงผิวร่วม ตามลำดับ โดยอัตราส่วนที่เหมาะสมสำหรับการนำมาพัฒนาผลิตภัณฑ์เซรั่มจะประกอบด้วยน้ำมันรำข้าวจากข้าวไรซ์เบอร์รี่, Eumulgin® VL 75, Cetiol® HE และน้ำที่ปริมาณร้อยละ 35, 44, 11 และ 10 ตามลำดับ จากการประเมินทางประสาทสัมผัสพบว่าคุณลักษณะทางด้านความชอบโดยรวม ลักษณะปรากฏ สี และความใส พบว่าสูตรที่เหมาะสมได้คะแนนความชอบเฉลี่ยเท่ากับ 5.1, 5.7, 5.5 และ 5.0 คะแนนตามลำดับจากคะแนนเต็ม 7 คะแนน นอกจากนี้การทดสอบความคงตัวของผลิตภัณฑ์เซรั่มด้วยวิธี Freeze-thaw cycle พบว่าไม่เกิดการแยกชั้นของตัวรับของผลิตภัณฑ์รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างต้นจอกกับฟางข้าวต่อ ผลผลิตเห็ดฟางที่เพาะในตะกร้าพลาสติก(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) อมรรัตน์ อุประปุย; อรพิน เสละคร; คงเดช พะสีนาม; ธันวมาส กาศสนุกงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาอัตราส่วนที่เหมาะสมระหว่างต้นจอกกับฟางข้าวสำหรับใช้เป็นวัสดุเพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติก โดยวางแผนการทดลองแบบสุ่มสมบูรณ์ (Completely Randomized Design : CRD) แบ่งออกเป็น 5 สิ่งทดลองๆ ละ 4 ซ้ำ โดยใช้อัตราส่วนวัสดุเพาะ แตกต่างกัน ได้แก่ 1) จอกแห้ง 100% 2) จอกแห้ง 75% : ฟาง 25% 3) จอกแห้ง 50% : ฟาง 50% 4) จอกแห้ง 25% : ฟาง 75% และ 5) ฟาง 100% ผลการวิจัยหลังจากเพาะเห็ดฟางเป็นเวลา 13 วัน และเก็บผลผลิตติดต่อกันเป็นเวลา 15 วัน พบว่า มีความแตกต่างกันทางสถิติอย่างมีนัยสำคัญ (p<0.05) โดยการใช้ฟางข้าว 100% ให้น้ำหนักดอกรวม จำนวนดอก น้ำหนักต่อดอก และ ขนาดเส้นรอบวงของเห็ดฟาง เฉลี่ยสูงสุดเท่ากับ 740.46 กรัม 14.56 ดอกต่อตะกร้า 12.81 กรัมต่อดอก และ 12.44 เซนติเมตรต่อดอก ตามลำดับ วิจัยคอลเลกชัน วิจัยสถาบันคอลเลกชัน วิทยานิพนธ์คอลเลกชัน หนังสือทรงคุณค่าคอลเลกชัน รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การผลิตถั่วเหลืองหมักที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการสูงด้วยราโมแนสคัสเพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าเกษตรและสร้างขีดความสามารถในการแข่งขัน(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2556) เกตุการ ดาจันทา; อุทัยวรรณ จัศรธงงานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อคัดเลือกราโมแนสคัสที่เหมาะสมในการหมักถั่วเหลืองให้มี monacolin K สูงและสาร citrinin ต่ำ หลังจากนั้นได้ศึกษากระบวนการหมักถั่วเหลืองที่เหมาะสมโดยบ่มถั่วเหลืองที่อุณหภูมิ 25 30 และการเปลี่ยนอุณหภูมิจาก 30 เป็น 25 องศาเซลเซียสระหว่างการหมัก นาน 20 วัน ตรวจวิเคราะห์ปริมาณสารออกฤทธิ์ทางชีวภาพในถั่วเหลืองหมัก ได้แก่ วงควัตถุ, monacolin K, citrinin, phenolic compounds และ isoflavones นอกจากนี้ยังได้ตรวจวิเคราะห์ฤทธิ์ด้านออกซิเดชันด้วยวิธี DPPH radical-scavenging effect และ ferric reducing antioxidant power (FRAP) ในถั่วเหลืองหมักอีกด้วย ผลการศึกษาพบว่าถั่วเหลืองที่หมักด้วยรา Monascus sp. PSRU03 มีปริมาณของสาร monacolin K สูงที่สุด (29.98 mg/kg DM) เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์ PSRU05, PSRU08 และ PSRU10 (6.83 – 17.76 mg/kg DM) และพบ citrinin ในปริมาณต่ำ สำหรับการศึกษากระบวนการหมักพบว่าถั่วเหลืองที่หมักด้วยรา Monascus sp. PSRU03 ที่อุณหภูมิ 30 องศาเซลเซียส นาน 20 วัน มีปริมาณของรงควัตถุและ phenolic compounds สูงที่สุด และถั่วเหลืองที่หมักนาน 15 วันมีฤทธิ์ด้านออกซิเดชัน DPPH radical-scavenging effect และ FRAP เพิ่มขึ้นสูงกว่าการบ่มถั่วเหลืองที่อุณหภูมิอื่นอย่างมีนัยสำคัญ ถั่วเหลืองหมักโมแนสคัสอบแห้งที่อุณหภูมิ 70 องศาเซลเซียส ตรวจพบปริมาณรงควัตถุและสมบัติการด้านออกซิเดชันสูงกว่าถั่วเหลืองหมักโมแนสคัสที่ผ่านการอบแห้งที่อุณหภูมิ 50 และ 60 องศาเซลเซียส อย่างไรก็ตามปริมาณของสาร isoflavones รวม (daidzin+glycitin+genistin+daidzein+glycitein+genistein) ในถั่วเหลืองหมักอบแห้งทั้ง 3 อุณหภูมิมีค่าไม่แตกต่างกัน สาร isoflavones ที่พบในถั่วเหลืองหมักโมแนสคัสเกือบทั้งหมดเป็นชนิด aglucosides โดยพบ daidzein มากที่สุด (ร้อยละ 53-54 ของ isoflavones รวม) รองลงมาคือ genistein (ร้อยละ 36-38 ของ isoflavones รวม) และ glycitein (ร้อยละ 10 ของ isoflavones รวม) ถั่วเหลืองหมักโมแนสคัสที่ผลิตด้วยสภาวะที่เหมาะสมและผ่านการอบแห้งที่ 70 องศาเซลเซียส มีปริมาณของสาร monacolin K และ citrinin 38.87 และ 1.60 mg/kg DM ตามลำดับ งานวิจัยนี้พบว่ารา Monascus sp. PSRU03 มีศักยภาพในการนำมาผลิตถั่วเหลืองหมักที่อุดมด้วยสารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายหลายชนิด อย่างไรก็ตามการนำถั่วเหลืองหมักโมแนสคัสไปใช้ประโยชน์นั้นควรมีการตรวจสอบด้านความปลอดภัยจากสารพิษ citrinin ร่วมด้วยรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การศึกษารูปแบบการเลี้ยงไก่ไข่ที่ส่งผลต่อสมรรถภาพการผลิตและคุณภาพไข่(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) สุกัญยา แตงโม; สุภาวดี แหยมคง; ประภาศิริ ใจย่อง; พัทธนันท์ โกธรรม; ต๋วน เหงียน ง๊อกรายการ การเข้าถึงแบบเปิด รายงานการวิเคราะห์สภาพการศึกษาของนักศึกษาคงอยู่คณะเทคโนโลยีการเกษตรและอาหาร หลักสูตรปริญญาตรี (4 ปี)ประจำปีการศึกษา 2554-2558(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) กรวรรณ ทองสอนรายการ การเข้าถึงแบบเปิด การพัฒนาคุณภาพลอดช่องหนองกระดิ่ง(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2549) น้ำทิพย์ วงศ์ประทีปการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประวัติความเป็นมา และพัฒนากระบวนการผลิตลอดช่องหนองกระดิ่ง ให้สะอาดปลอดภัย และมีคุณค่าทางโภชนาการ การศึกษามี 2 ขั้นตอนคือ การศึกษาประวัติความเป็นมา และการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ ขั้นแรกศึกษาประวัติความเป็นมาของลอดช่องหนองกระดิ่ง โดยสัมภาษณ์และจัดเวทีชาวบ้านเพื่อรวบรวมข้อมูล จากการศึกษาพบว่า นางสนิท ขุนพินิจ เป็นผู้ริเริ่มการผลิตลอดช่องหนองกระดิ่ง เดิมตัวลอดช่องมีสีเขียว มีความเหนียวนุ่ม และขนาดตัวเล็กสม่ำเสมอ ขั้นตอนที่สองนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนากระบวนการผลิต โดยทำการทดลองเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ในห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ผลทดลองทางกายภาพ เคมี ประสาทสัมผัส และตรวจสอบเชื้อจุลลินทรีย์กระบวนการพัฒนาเริ่มต้นด้วยการแช่นำข้าวปลอดสารพิษ มาแช่น้ำ และหมักสนเนื้อสัมผัสเละจากนั้นนำข้าวหมักผึ่งแดดให้แห้ง นำข้าวหมักที่ได้นวดกับน้ำปูนใส และผสมกับน้ำสมุนไพรในอัตราส่วนข้าวหมักต่อน้ำสมุนไพร 1 : 4 ลอดช่องที่ได้จะมีลักษณะเหนียวนุ่ม มีความยืดหยุ่น และมีสีสันแตกต่างจากลอดช่องทั่วไปคือ สีขาวจากน้ำปูนใส สีเขียวจากใบเตย สีเหลือจากดอกคำฝอย สีชุมพูจากฝาง และสีส้มจากมะตูม ลอดช่องหนองกระดิ่งทั้ง 5 สรมีปริมาณจุลินทรีย์ผ่านเกณฑ์มาตรฐานความสะอาดและปลอดภัย มีส่วนผสมทั้งหมดที่ได้จากธรรมชาติ มีปริมาณความชื้นร้อยละ 63.85-64.48 โปรตีนร้อยละ 2.99-3.15 ไขมันร้อยละ 0.12-0.15 คาร์โบไฮเดรตร้อยละ 32.18-32.68 โดยผู้บริโภคให้การยอมรับลอดช่องหนองกระดิ่งทั้ง 5 สีที่ระดับ 7.10-7.75
