วิจัย

Permanent URI for this collectionhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/150

ค้นหา

ผลลัพธ์การค้นหา

กำลังแสดง1 - 4 of 4
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    ศักยภาพการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของจังหวัดพิษณุโลกโดยใช้แบบจำลอง Boston Consulting Group (BCG)
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2558) อรรถพล จรจันทร์
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การศึกษาเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการบัญชี กับมาตรฐานการศึกษาระหว่างประเทศสำหรับ ผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) พัชรินทรา ชัยสมตระกูล; สุธีรา วิไลกุล; รัตนา สิทธิอ่วม
    การศึกษาเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการบัญชี กับมาตรฐานการศึกษาระหว่างประเทศสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการบัญชีกับมาตรฐานการศึกษาระหว่างประเทศสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี ด้วยวิธีการวิเคราะห์ส่วนประกอบของข้อมูลเปรียบเทียบความเหมือนหรือความสอดคล้องและความแตกต่างของผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการบัญชี (TOF) และมาตรฐานการศึกษาระหว่างประเทศสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี (IES) โดยจัดแบ่งกลุ่มรายวิชาบัญชีเป็น 7 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มวิชาการบัญชีการเงินและการรายงานทางการเงิน กลุ่มวิชาการบัญชีบริหาร กลุ่มวิชาการเงินและการบริหารการเงิน กลุ่มวิชาภาษีอากร กลุ่มวิชาการสอบบัญชีและการให้ความเชื่อมั่น กลุ่มวิชาการกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยง และการควบคุมภายใน และกลุ่มวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ นำผลการเรียนรู้ที่มีวัตถุประสงค์ของการวัดผลเหมือนกันมาจับคู่กัน และวิเคราะห์กลุ่มรายวิชาตามผลการเรียนรู้ที่กำหนดไว้ในหลักสูตรบัญชีบัณฑิต (ปรับปรุง พ.ศ.2561) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ผลการเปรียบเทียบผลการเรียนรู้ตามมาตรฐานคุณวุฒิระดับปริญญาตรี สาขาวิชาการบัญชี (TOF) และมาตรฐานการศึกษาระหว่างประเทศสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพบัญชี (IES) พบว่า กลุ่มวิชาการบัญชีการเงินและการรายงานทางการเงิน ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรมมีความแตกต่างมากที่สุด 2) กลุ่มวิชาการบัญชีบริหาร มีผลการเรียนรู้ใกล้เคียงกัน 3) กลุ่มวิชาการเงินและการบริหารการเงิน ผลการเรียนรู้ด้านคุณธรรม จริยธรรม และด้านทักษะทางปัญญามีความแตกต่างมากที่สุด 4) กลุ่มวิชาภาษีอากร ผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญามีความแตกต่างมากที่สุด กลุ่มวิชาการสอบบัญชีและการให้ความเชื่อมั่น ผลการเรียนรู้ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบมีความแตกต่างมากที่สุด 6) กลุ่มวิชาการกำกับดูแล การบริหารความเสี่ยงและการควบคุมภายใน ผลการเรียนรู้ด้านทักษะทางปัญญามีความแตกต่างมากที่สุด 7) กลุ่มวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ผลการเรียนรู้ด้านทักษะการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีมีความแตกต่างมากที่สุด
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    รู้เท่าทันสื่อดิจิทัลกับบทบาทของผู้บริโภค
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) พิชญาพร ประครองใจ; เอกรงค์ ปั้นพงษ์
    การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาระดับการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลของผู้บริโภคและเพื่อศึกษากระบวนการเรียนรู้การรู้เท่าทันสื่อตามสิทธิของผู้บริโภค ขนาดของกลุ่มตัวอย่างในการศึกษาครั้งนี้เท่ากับ 363 คน และภาคีเครือข่ายทํางานรู้เท่าทันสื่อประเทศไทย 11 คน ที่มีค่าความเชื่อถือได้ ร้อยละ 95 ค่าระดับความคลาดเคลื่อนไม่เกินร้อยละ 5 หรือระดับนัยสําคัญ 0.05 ผลการวิเคราะห์ พบว่า ระดับการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลของผู้บริโภค ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่มีความรู้ในเรื่องการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัล อยู่ในระดับมาก ด้านสื่อดิจิทัลมีอิทธิพลต่อผู้บริโภค การใช้ภาพประกอบ สี และแสง มีผลด้านจิตวิทยาต่อการตัดสินใจของผู้ซื้อ รองลงมาคือ ผู้ประกอบกิจการอย่างเฟซบุ๊ก กูเกิ้ล หรือยุทูป ล้วนมีรายได้จากการโฆษณาทางดิจิทัลฉันเนื่องมาจากการเข้าใช้บริการของผู้บริโภค และด้านข้อมูลพื้นฐานในการตรวจสอบข่าวที่เรากําลังอ่านตรงหน้า ตามลําดับ มีความเข้าใจในเรื่องการรู้เท่าทันสื่อดิจิทัลอยู่ในระดับมาก โดยนักศึกษาสามารถใช้ดุลยพินิจในการแชร์ข้อมูลของตนเองและผู้อื่นโดยคํานึงถึงความเป็นส่วนตัว และนักศึกษาสามารถวิเคราะห์แยกแยะระหว่างข้อมูลที่ถูกต้องและข้อมูลที่ผิด เนื้อหาที่ดี และเนื้อหาอันตราย ข้อมูลติดต่อออนไลน์ที่น่าเชื่อถือและน่าสงสัยได้ รองลงมาคือ นักศึกษาสามารถเข้าใจธรรมชาติของการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัล ว่าจะหลงเหลือร่องรอยข้อมูลทั้งไว้เสมอ รวมไปถึงเข้าใจผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อการดูแลสิ่งเหล่านี้อย่างมีความรับผิดชอบ และนักศึกษาสามารถแสดงความเข้าใจความรู้สึก หรือความต้องการของตนเองและผู้อื่นบนโลกออนไลน์ ตามลําดับ กระบวนการเรียนรู้การรู้เท่าทันสื่อตามสิทธิของผู้บริโภคประกอบด้วย (1) สร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านกิจกรรม ได้แก่ กําหนดวัตถุประสงค์กิจกรรมที่ชัดเจนและวัดผลได้วางแผนการจัดกิจกรรมอย่างมีระบบและเปิดโอกาสให้ผู้เรียนแสดงทัศนะอย่างกว้างขวางดําเนินกิจกรรมที่มีเนื้อหามาจากประสบการณ์/กรณีศึกษาที่น่าสนใจ และเป็นกิจกรรมที่ทําให้เกิดการมีส่วนร่วมและประเมินผลกิจกรรม โดยควรเป็นการวัดผลก่อน-หลังทํากิจกรรม (2) สร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านการวิเคราะห์จากกรณีศึกษา/ประสบการณ์ส่วนบุคคล ดังนี้ การตั้งคําถาม เช่น ข้อมูลนี้เชื่อถือได้หรือไม่ ข้อมูลนี้มาจากที่ใด มีวัตถุประสงค์อะไร ตรวจสอบความน่าเชื่อของข้อมูลกับแหล่งข้อมูลอื่นๆ ฝึกความคิดเชิงวิพากษ์ (Critical Thinking) และการมีวิจารญาณ (3) สร้างกระบวนการเรียนรู้ผ่านการการเรียนการสอน ดังนี้ จัดหลักสูตรการเรียนการสอนในแต่ละระดับชั้นและจัดหลักสูตรการเรียนการสอนระยะสั้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันให้แก่ผู้บริโภคสื่อดิจิทัล หรือความฉลาดทางดิจิทัล (Digital Intelligence) หรือ DQ
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การบริหารและจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2547) ชุลีรัตน์ จันทร์เชื้อ
    การวิจัยเรื่อง การบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเพื่อการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าและแบบสำรวจการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศเพื่อนำไปเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรฐานการบริหารและการจัดการเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติอื่นๆ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ แบบจำลองการบริหารและการจัดการแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศโดยปรับแต่งเป็นแบบสำรวจเพื่อใช้เก็บข้อมูลภาคสนามและแบบสอบถามที่นำไปเก็บข้อมูลจากหัวหน้าอุทยานแห่งชาติภู่หินร่องกล้า บุคคลผู้ปฏิบัติงานในอุทยานฯ นักท่องเที่ยว ประชาชนชุมชนท้องถิ่น ผลการศึกษาพบว่า อุทยานแห่งชาติภู่หินร่องกล้ามีความสามารถในการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในระดับที่สูง มีเพียง 4 กิจกรรมเท่านั้นที่อุทยานฯยังไม่ได้ดำเนินการ ส่วนความสามารถในการบริหารและการจัดการเกี่ยวกับส่วนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น บุคลากรในองค์กร, นักท่องเที่ยว และชุมชนท้องถิ่นในเขตอุทยาน อยู่ในระดับดีพอสมควรทำให้เชื่อมั่นได้ว่าแบบสำรวจและแบบสอบถามการบริหารและการจัดการท่องเที่ยวเชิงนิเวศจะสามารถเป็นแนวทางในการกำหนดมาตรฐานการบริหารและการจัดการการท่องเที่ยวเชิงนิเวศของอุทยานแห่งชาติและแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติได้