วิจัย
Permanent URI for this collectionhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/146
ค้นหา
รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การใช้พื้นที่ดินสาธารณะจังหวัดพิษณุโลก และสุโขทัย(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2549) อุไรวรรณ วิจารณกุลการศึกษาการใช้พื้นที่ดินสาธารณะจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัยมีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาปริมาณขอบเขต ลักษณะประเภท และรูปแบบการเข้าใช้ประโยชน์ของพื้นที่ดินสาธารณะของจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย โดยศึกษารายละเอียดใน 5 ตำบลของจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งได้แก่ ตำบลบ้านกร่าง ตำบลพันเสา ตำบลแม่ระกา ตำบลวังพิกุล ตำบลดินทอง และตำบลย่านยาว วิธีการศึกษาเริ่มต้นด้วยการศึกษาบริบทของพื้นที่สาธารณะในตำบลจากเอกสาร ประกาศ พระราชบัญญัติทางหลวง พระราชบัญญัติจัดรูปที่ดิน ศึกษาขนาดและขอบเขตจากการสำรวจพื้นที่ และศึกษาจากแผนที่ต่างๆ ทำการศึกษาขอบเขตของพื้นที่สาธารณะประโยชน์ โดยใช้เครื่องจีพีเอสวัดพิกัดทางภูมิศาสตร์ของพื้นที่ และศึกษารูปแบบการใช้พื้นที่สาธารณประโยชน์จากการสัมภาษณ์สำรวจและถ่ายภาพตามสภาพจริง ผลการศึกษาพบว่าจังหวัดพิษณุโลกและสุโขทัย มีที่ดินสาธารณะที่มีหนังสือสำคัญสำหรับที่ทางหลวงจำนวนทั้งสิ้น 1,197 แปลง รวมเป็นพื้นที่ทั้งหมด 95,227 ไร่ 1,824 งาน 58,546.50 ตารางวา หรือคิดเป็น0.90 % ของพื้นที่จังหวัดทั้ง 2 จังหวัด ซึ่งเป็นพื้นที่สาธารณะที่มีสภาพเป็นหนอง คลอง บึง 799 แปลง รวมเป็นพื้นที่37,322 ไร่ 1,266 งาน 39,230.7 ตารางวา คิดเป็น 66.75 ของจำนวนแปลงของพื้นที่สาธารณะรวมทั้ง 2 จังหวัด และมีสภาพเป็นดิน 398 แปลง รวมเป็นพื้นที่ 57,905 ไร่ 558 งาน 19,315.8 ตารางวา ในตำบลบ้านกร่าง ตำบลพนเสา ตำบลแม่ระกา ตำบลวังพิกุล ตำบลดินทอง ของจังหวัดพิษณุโลก และตำบลคลองยาง ตำบลศรีคีรีมาศ ตำบลป่ากุมเกาะ และตำบลย่านยาว ของจังหวัดสุโขทัย มีพื้นที่สาธารณประโยชน์รวมทั้งสิ้น 79 แปลง คิดเป็นพื้นที่ 4,410 ไร่ 308.3 ตารางวา คิดเป็น 0.99% ของพื้นที่รวมทั้ง 9 ตำบลพื้นที่สาธารณประโยชน์ส่วนใหญ่มีสภาพเป็นบึง คลอง ซึ่งยังคงอยู่ในสภาพเดิม 54.4 % ของพื้นที่สาธารณทั้งหมดยังมิได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์เป็นอย่างอื่นเป็นพื้นที่ที่มิได้มีการบุกรุกคิดเป็นพื้นที่ 2,399 ไร่ 211.3ตารางวา หรือคิดเป็น 45.6 % ของพื้นที่สาธารณทั้งหมด ในพื้นที่สาธารณะที่ถูกนำไปใช้ประโยชน์ มีผู้เข้าครอบครองพื้นที่ จำนวน 48 ราย ซึ่งในจำนวนนี้มีหน่วยงานราชการ 4 แห่ง ครอบครอง 42.3% ของพื้นที่สาธารณะทั้งหมด คิดเป็นพื้นที่ที่มีการครอบครอง 1,866 ไร่ 3 งาน 368 ตารางวา และ 3.3% ของพื้นที่สาธารณะทั้งหมด เป็นพื้นที่ที่ถูกนำมาใช้ประโยชน์ร่วมกันของคนในตำบลนั้นๆ รูปแบบของการเข้าใช้ประโยชน์ ในพื้นที่สาธารณะ คือการเข้าใช้พื้นที่ทำการเกษตร ได้แก่ ทำไร่ เลี้ยงสัตว์ เป็นที่ตั้งโรงเรียน ที่ตั้งหน่วยงานราชการ บ่อบำบัดน้ำเสีย ที่เก็บกักน้ำ สวนสาธารณ