• ไทย
  • English
Log In
คลิกลงทะเบียนลืมรหัสผ่าน
โลโก้คลังสารสนเทศ
หน้าแรก
เกี่ยวกับคลังสารสนเทศดิจิทัล
  • เกี่ยวกับคลังสารสนเทศดิจิทัล
  • วิสัยทัศน์
  • พันธกิจ
  • นโยบายการพัฒนา
  • โครงสร้างองค์กรและบุคลากร
  • ผู้เชี่ยวชาญ
  • เป้าหมาย
  • การเข้าถึงและการใช้งาน
  • การนำไปใช้และการเผยแพร่
  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • การติดต่อ
การนำฝากและการนำเข้าข้อมูล
  • การนำฝากและการนำเข้าข้อมูล
  • การเปลี่ยนแปลงเนื้อหา
  • ข้อตกลงในการอนุญาตให้จัดทำและเผยแพร่
  • แนวทางปฏิบัติในการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
  • แผนการบำรุงรักษาไฟล์ดิจิทัล
  • มาตรฐานรูปแบบไฟล์
  • เกี่ยวกับเมทาดาทา
  • แผนสืบทอดคลังสารสนเทศ
  • มาตรการและแนวทางดำเนินงานเมื่อมีการใช้ทรัพยากรผิดเงื่อนไข
  • แผนการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล
  • กระบวนการทำงาน
  • คู่มือการสืบค้น
  • คู่มือการบันทึกผลงาน
  • ร้องเรียนและขอถอนทรัพยากรสารสนเทศ
การรับรองมาตรฐาน
  • แบบประเมินตนเอง
  • รายงานการประเมินตนเอง
การเยี่ยมชมบันทึกผลงาน
  1. หน้าแรก
  2. ค้นหาตามชื่อผู้แต่ง/ผู้สร้างสรรค์ผลงาน

เรียกดูข้อมูลตาม ชื่อผู้แต่ง/ผู้สร้างสรรค์ผลงาน "วงศกร เจียมเผ่า"

กรองผลลัพธ์โดยการพิมพ์ตัวอักษรสองสามตัวแรก
กำลังแสดง1 - 4 of 4
  • Results Per Page
  • ตัวเลือกการเรียงลำดับ
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การศึกษาความคาดหวังของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ต่อการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา ภายใต้การกำกับดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2557) นพคุณ ถาวรกูล; วงศกร เจียมเผ่า
    การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาความคาดหวังของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ต่อการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา เพื่อเปรียบเทียบความคาดหวังของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดิน ต่อการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา และใช้เป็นแนวทางในการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชราขององค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดินในอนาคตเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้สุ่มตัวอย่างที่ได้จากการกำหนดขนาดด้วยตารางสำเร็จรูปของ "Taro Yamane" ที่ระดับความเชื่อมั่น 95% และที่ระดับความคลาดเคลื่อน ±5% ในการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยจะได้ขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่เหมาะสมคือ 223 คน เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาโดยนำมาแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และใช้สถิติเชิงอนุมาน โดยการหาค่าสถิติทดสอบ (t-test) และหาค่าสถิติทดสอบ (F-test) ผลการวิจัย พบว่า 1.ความคาดหวังของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร ต่อการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา ทั้งหมด 7 ด้าน อยู่ในระดับมาก สำหรับผลการพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านศาสนา และรองลงมาคือ ด้านอาชีวะบำบัด ด้านกายภาพบำบัด ด้านนันทนาการ ด้านการแพทย์และอนามัย ด้านสังคมสงเคราะห์ และด้านฌาปนกิจ 2.เปรียบเทียบความคาดหวังของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดิน ต่อการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา พบว่า ปัจจัยด้านอาชีพ และลักษณะการอยู่อาศัย มีผลต่อความคาดหวังของผู้สูงอายุในการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนปัจจัยด้าน เพศ อายุ สถานภาพสมรส และรายได้ ไม่มีผลต่อความคาดหวังของผู้สูงอายุในการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชรา 3.แนวทางการจัดตั้งสถานสงเคราะห์คนชราขององค์การบริหารส่วนตำบลกำแพงดิน อำเภอสามง่าม จังหวัดพิจิตร เมื่อมีการจัดตั้งสถานสงเคราะห์แล้ว กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีความคาดหวัง และความต้องการมากที่สุดให้มีการจัดกิจกรรมสวดมนต์ทุกเช้าและก่อนนอน รวมทั้งควรจัดให้มีกิจกรรมทางศาสนา เช่น การฟังเทศน์ การนั่งสมาธิ ทุกวันพระ
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีศึกษาจังหวัดพิจิตร
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2557) ชัชพิสิฐ เกตุหอม; วงศกร เจียมเผ่า
    การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของประชาชนต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด 2) เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด และ 3) เพื่อเสนอแนะต่อแนวทางความเป็นไปได้ของผู้ว่าที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรงกรณีศึกษาจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้กลุ่มตัวอย่างที่ได้จากการกำหนดขนาดด้วยตารางสำเร็จรูปของ “Taro Yamane” ที่จำนวน 400 คน เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา โดยนำมาแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และดำเนินงานตามมาตรฐาน และสถิติอนุมาน โดยการหาค่าสถิติทดสอบ (t - test) ค่าสถิติทดสอบ (F - test) ผลการวิจัยพบว่า 1.ความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีศึกษาจังหวัดพิจิตรทั้งหมด 4 ด้าน พบว่า ในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านการพัฒนา และรองลงมาตามลำดับ คือ ด้านการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ และด้านการจัดบริการสาธารณะตามหลักของ NPM (New Public Management) 2.เปรียบเทียบความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการเลือกตั้งผู้ว่าราชการจังหวัด จำแนกตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า อายุ สถานภาพสมรส อาชีพ และรายได้ มีความคิดเห็นแตกต่างกันทั้งหมด 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการพัฒนา ด้านการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชน ด้านการจัดบริการสาธารณะตามหลัก NPM (New Public Management) และด้านการบริหารงานแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ส่วนเพศ และระดับการศึกษา พบว่า ทุกด้านไม่มีความแตกต่างกัน อย่างไม่มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 3.ข้อเสนอแนะต่อแนวทางความเป็นไปได้ของผู้ว่าที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชนโดยตรง พบว่า ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นว่า มากการเลือกตั้งผู้ว่าที่มาจากประชาชนโดยตรงเป็นไปได้จริง ก็ถือว่าเป็นกระบวนการสำคัญที่จะทำให้ประชาชนในท้องถิ่นได้เข้ามามีส่วนร่วมในการเลือกตัวแทนที่ดีและคนที่ตนเองไว้วางใจเข้าไปมีบทบาททางการเมืองแทนตน แต่ถึงอย่างนั้นก็ตามกระแสของสังคมในปัจจุบันก็ได้มีคนหลายกลุ่มต่างแสดงความคิดเห็น และวิพากษ์วิจารณ์ถึงผลดี ผลเสีย ที่จะเกิดขึ้นตามมา เพราะการเลือกตั้งผู้ว่าที่มาจากประชาชนโดยตรงนั้น ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในประเทศไทย ดังนั้น หากกระบวนการนี้จะเกิดผลได้จริงในทางปฏิบัติ จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่องค์กรทุกภาคส่วนจะต้องมีการทำประชามติระดับชาติร่วมกัน เพื่อวางแผนและหาแนวทางที่สอดคล้องกับระบบการเมืองการปกครองของประเทศอย่างจริงจัง โดยเฉพาะการพิจารณาถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นตั้งแต่ระดับชุมชน สังคม จนถึงระดับประเทศชาติอย่างรอบคอบ เพื่อป้องกันปัญหาการทุจริต คอร์ปชั่น ที่ยังเป็นปัญหาเรื้อรังในการตรวจสอบและแก้ไขมายาวนาน
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การศึกษาความต้องการของประชาชนต่อผู้นำในอุดมคติตามหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการปกครอง กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2557) สุภารัตน์ แก้วทองคำ; วงศกร เจียมเผ่า
    การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความต้องการของประชาชนต่อผู้นำในอุดมคติ ปัจจัยที่มีผลต่อความเป็นผู้นำ ตลอดจนแนวทางในการพัฒนาผู้นำในอุดมคติตามหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการปกครอง เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ ใช้กลุ่มตัวอย่างที่ได้จากการกำหนดขนาดด้วยตารางสำเร็จรูปของ “Taro Yamano” ที่จำนวน 392 คน เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและเชิงอนุมาน ผลการวิจัยพบว่า: 1.ความต้องการของประชาชนต่อผู้นำในอุดมคติตามหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการปกครอง กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ประชาชนมีความต้องการผู้นำในอุดมคติตามหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการปกครองมากที่สุดในด้านหัวใจกับLic รองลงมา คือ ด้านพรหมวิหาร 4 ด้านหลักการบริหารทาง NPM ด้านสังคหวัตถุ 4 ด้านราชสังคหวัตถุ 4 และด้านธรรมาธิปไตย ตามลำดับ 2.ปัจจัยที่มีผลต่อความเป็นผู้นำในอุดมคติตามหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการปกครอง กรณีศึกษาองค์การบริหารส่วนตำบลท่าโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ด้านคุณลักษณะส่วนบุคคล ได้แก่ อายุ สถานภาพการสมรส ระดับการศึกษา อาชีพ รายได้ พบว่ามีผลต่อความต้องการของประชาชนต่อผู้นำในอุดมคติตามหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการปกครอง 3.แนวทางในการพัฒนาผู้นำในอุดมคติตามหลักคุณธรรมจริยธรรมทางการปกครองควรศึกษาความต้องการของประชาชน ให้เกิดผลได้อย่างเป็นรูปธรรม หลักสำคัญที่ผู้นำต้องตระหนักและใส่ใจ คือ การมุ่งพัฒนาศักยภาพของตนเองในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านความรู้ ความสามารถ การนำหลักคุณธรรมจริยธรรม ทั้งด้านหลักธรรมาธิปไตย ด้านหลักสังคหวัตถุ 4 ด้านพรหมวิหาร 4 ด้านราชสังคหวัตถุ 4 ด้านหัวใจกับLic และด้านหลักการบริหารทาง NPM ที่จะต้องมุ่งเสริมและสร้างให้เกิดผลได้อย่างแท้จริง
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    รูปแบบการจัดสวัสดิการสังคมอันพึงประสงค์ของผู้สูงอายุในเขตองค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ประทับช้าง อำเภอโพธิ์ประทับช้าง จังหวัดพิจิตร
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2557) วิจิตรา ฟวงท่าโก; วงศกร เจียมเผ่า

สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

156 ม.5 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000

โทรศัพท์: 0-5526-7224-5

เว็บไซต์: library.psru.ac.th

E-mail: lib_pibul@live.psru.ac.th

LiveChat

Pibulsongkram Logo

สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

Follow Us
Pibulsongkram Logo

                       

©2025 คลังสารสนเทศดิจิทัลพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ข้อตกลงสำหรับผู้ใช้
  • ข้อเสนอแนะ