มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/128

ค้นหา

ผลการค้นหา

กำลังแสดง1 - 3 of 3
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การศึกษาระบบบริหารจัดการรายวิชาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) อุไรวรรณ รักผกาวงศ์
    การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อการศึกษาระบบบริหารการจัดการรายวิชาผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยให้ผู้สอนสร้างสื่อการเรียนการสอนในลักษณะ E-learning โดยใช้บริการผ่านทางระบบบริหารจัดการรายวิชา ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม แล้วให้นักศึกษษที่เป็นกลุ่มตัวอย่างได้ทดลองใช้ พร้อมทั้งสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความสะดวกในการใช้บริการระบบบริหารจัดการรายวิชาของผู้สอน และศึกษาเจตคติของนักศึกษาที่มีต่อสื่อการเรียนการสอนที่ผู้สอนสร้างขึ้น โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการรวบรวมข้อมูลโดยการ แจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า เจตคติของนักศึกษาที่มีต่อสื่อการเรียนการสอนที่ผู้สอนสร้างขึ้นในระบบการบริหารจัดการรายวิชา ผ่าเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ด้านการนำเสนอ ด้านเนื้อหา และด้านการนำไปใช้ ทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับเหมาะสมมาก โดยมีเจตคติที่ดีต่อสื่อการเรียนการสอนแต่ละด้านดังนี้ ระบบสามารถแสดงคะแนนที่หลังทำแบบทดสอบเสร็จ เนื้อหาบทเรียนมีความสอดคล่องกับจุดประสงค์ และสามารถส่งเสริมให้เกิดความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ เรียงตามลำดับ ความคิดเห็นของผู้สอน เกี่ยวกับความสะดวกในการใช้บริการระบบริหารจัดการรายวิชาด้านการจัดการของผู้สอน ด้านการประมวลผลของนักศึกษา ด้านความรับผิดชอบของนักศึกษาทั้ง 3 ด้าน อยู่ในระดับเหมาสมมากที่สุด โดยมีความคิดเห็นต่อระบบบริหารจัดการรายวิชา ดังนี้สะดวกในการสร้างแบบทดสอบได้หลายวิธี และสร้างแบบทดสอบแบบสุ่มข้อสอบได้ สะดวกในการเรียกดูคะแนนนักศึกษา และสะดวกที่ให้นักศึกษาทำข้อสอบชุดเดียวได้มากกว่า 1 ครั้ง เรียงตามลำดับ
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การพัฒนาสื่อการเรียนการสอนโดยการใช้แอพพลิเคชั่น Google Classroom ในการจัดการเรียนการสอนรายวิชาวัสดุวิศวกรรม ให้ทันสมัยกับยุคไทยแลนด์ 4.0
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) ณัฐพร ตั้งเจริญชัย
    จากการวิจัยในครั้งนี้เป็นการวิจัยรูปแบบการเรียนการสอนของรายวิชา วัสดุวิศวกรรม จากการสร้างห้องเรียนด้วยการใช้แอพพลิเคชั่น Google Classroom มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการประเมินการเรียนการสอนระหว่างภาคต้น และภาคปลาย ในภาคเรียน 2/2561 ปีการศึกษา 2560 โดยทำการเก็บรวบรวมข้อมูลก่อนและหลังใช้แอพพลิเคชั่น ซึ่งข้อมูลที่ทำการเก็บแต่ละด้านประกอบไปด้วย 1.ด้านผลสัมฤทธิ์ 2.ด้านการเข้าถึงข้อมูลจากขั้นเรียน 3.ด้านการส่งแบบฝึกหัด/รายงาน และ4.ภาพรวมนิสิตประเมินด้าน การวัดประเมินผล ของนักศึกษา จากการประเมินแบบสอบถามออนไลน์ จาก Google Form ทำการวิเคราะห์ข้อมูลจากค่าเฉลี่ยตามรายข้อมูลที่นิสิตประเมินตนเอง และนำค่าเฉลี่ยแปลงเป็นค่าระดับความพึงพอใจ ผลจาการวิเคราะห์สามารถสรุปผลได้ว่า คะแนนเฉลี่ยแต่ละด้านเมื่อนำมาจัดลำดับที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดไปยังค่าเฉลี่ยต่ำสุดได้แก่ 1.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้านประเมินผลสัมฤทธิ์ในรายวิชาที่จัดสอน อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.55 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 62.8 หลังการปรับปรุง 91 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 28 2.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้านการเข้าถึงข้อมูลจากขั้นเรียนในรายวิชาที่จัดสอน อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.64 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 56 หลังการปรับปรุง 92.8 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 36.8 3.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้านการส่งแบบฝึกหัด/รายงานในรายวิชาที่จัดสอน อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.64 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 60 หลังการปรับปรุง 92.8 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 32.8 4.โดยภาพรวมนิสิตประเมินด้าน การวัดประเมินผล ของนักศึกษาในรายวิชาวัสดุวิศวกรรมต่อการใช้ Google Classroom อยู่ในระดับ มากที่สุด หรือ ดีที่สุด x̄ =4.66 จากผลที่ได้ทำการวิจัยเมื่อคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ พบว่า ก่อนการปรับปรุง 68.8 หลังการปรับปรุง 93 ผลการปรับปรุงดีขึ้น 24.2
  • รายการ
    การพัฒนาอินโฟกราฟิกแนะแนวหลักสูตร คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) พิณรัตน์ นุชโพธิ์
    การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์สำคัญ คือ 1) เพื่อศึกษาความต้องการของสาขาวิชาในการพัฒนาอินโฟกราฟิกและระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการประชาสัมพันธ์หลักสูตร คณะวิทยาการจัดการมหาวิทยาลัยพิบูลสงคราม 2) เพื่อออกแบบและพัฒนาอินโฟกราฟิก และระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการประชาสัมพันธ์หลักสูตรคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 3) เพื่อศึกษาความคิดเห็นของครูแนะแนว และนักเรียนจากโรงเรียนเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 39 หลังการใช้อินโฟกราฟิก และระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการประชาสัมพันธ์หลักสูตรคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม โดยเก็บรวบรวมข้อมูลสำหรับการวิจัยจากประธานสาขาวิชาจำนวน 10 หลักสูตร ประกอบด้วย หลักสูตรปริญญาตรี 9 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาวิชาการตลาด สาขาวิชาการจัดการ สาขาวิชาการจัดการทรัพยากรมนุษย์ สาขาวิชาการจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ สาขาวิชาการจัดการธุรกิจค้าปลีก หลักสูตรบัญชีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการท่องเที่ยวและบริการ หลักสูตรนิเทศศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานิเทศศาสตร์ หลักสูตรเศรษฐศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาเศรษฐศาสตร์ธุรกิจ และหลักสูตรปริญญาโท 1 หลักสูตร ได้แก่ หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต สาขาวิชาการจัดการประยุกต์ ผลการศึกษาพบว่า ประธานสาขาวิชาทั้ง 10 หลักสูตรต้องการสื่อประชาสัมพันธ์ที่ให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับอาชีพที่ตรงกับสาขาวิชา โครงสร้างหลักสูตรและการเรียนการสอน และโอกาสในการประกอบอาชีพ มากที่สุด ขั้นตอนต่อไปคือการศึกษาความต้องการสื่อประชาสัมพันธ์ และระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการประชาสัมพันธ์หลักสูตรคณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามของกลุ่มตัวอย่างครูแนะแนวสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 จำนวน 52 คน จากการศึกษา พบว่า กลุ่มตัวอย่างครูแนะแนว มีความต้องการสื่อสารสนเทศที่ทันสมัย และต้องการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการด้านกระบวนการทำงานมากที่สุด หลังจากการศึกษาความต้องการของประธานสาขาวิชา และกลุ่มตัวอย่างครูแนะแนวแล้วจะนำข้อมูลดังกล่าวมาเป็นแนวทางในการพัฒนาสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบอินโฟกราฟิกและระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการประชาสัมพันธ์หลักสูตร จากนั้นได้ทำการประเมินความพึงพอใจหลังการใช้งานอินโฟกราฟิก ซึ่งจากกลุ่มตัวอย่างครูแนะแนว จำนวน 52 คน และกลุ่มตัวอย่างนักเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 39 จำนวน 1,050 คน และพบว่า กลุ่มตัวอย่างครูแนะแนวมีความพึงพอใจคุณภาพด้านเนื้อหา การบรรยาย และการบันทึกเสียงมากที่สุด รองลงมา คือคุณภาพการออกแบบ และด้านการสร้างภาพเคลื่อนไหว ตามลำดับ ส่วนกลุ่มตัวอย่างนักเรียนมีความพึงพอใจด้านเนื้อหา และด้านประโยชน์ในการนำไปใช้มากที่สุดเท่ากัน ในส่วนของการประเมินความพึงพอใจหลังการใช้ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการประชาสัมพันธ์หลักสูตร พบว่า กลุ่มตัวอย่างครูแนะแนวมีความพึงพอใจด้านประสิทธิภาพการทำงานของระบบมากที่สุด รองลงมา คือ ความพึงพอใจด้านความยากง่ายต่อการใช้ระบบ และด้านความปลอดภัยของข้อมูล ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างนักเรียนมีความพึงพอใจด้านประโยชน์ในการนำไปใช้มากที่สุด รองลงมาด้านการออกแบบและจัดรูปแบบ และด้านความยากง่ายต่อการใช้ระบบตามลำดับ