มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/128

ค้นหา

ผลการค้นหา

กำลังแสดง1 - 6 of 6
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การวิเคราะห์การเบิกจ่ายงบประมาณกองนโยบายและแผนจากระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ (GFMIS) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556-2558
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) โกสุมภ์ ทิมวัฒนา
    รายงานวิจัยสถาบัน เรื่อง การวิเคราะห์การเบิกจ่ายงบประมาณกองนโยบายและแผนจากระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ (GFMIS) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 – 2558 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ทราบถึงการเบิกจ่ายงบประมาณกองนโยบายและแผน จากระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ (GFMIS) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 – 2558 เพื่อใช้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการวางแผนงบประมาณล่วงหน้าให้สอดคล้องกับความต้องการพันธกิจ วัตถุประสงค์ และเพื่อใช้ในการวางแผนจัดสรรงบประมาณให้กับ งาน/โครงการ/กิจกรรมต่าง ๆ ในปีถัดไป โดยข้อมูลที่ใช้ในการวิเคราะห์ครั้งนี้ คือข้อมูลจากระบบการเบิกจ่ายงบประมาณ (GFMIS) ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามตั้งแต่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 – 2558 เป็นการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยการใช้โปรแกรม MS Excel ในการวิเคราะห์ข้อมูล เปรียบเทียบข้อมูล สถิติที่ใช้ประกอบด้วย จำนวน และค่าร้อยละ (Percentage) ผลการวิเคราะห์สรุปได้ ดังนี้ 1.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 4,725,990 บาท ใช้ไปจำนวนทั้งสิ้น 1,568,665.24 บาท คิดเป็นร้อยละ 33.20 2.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 6,901,200 บาท ใช้ไปจำนวนทั้งสิ้น 5,611,542.94 บาท คิดเป็นร้อยละ 81.31 3.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 2,108,200 บาท ใช้ไปจำนวนทั้งสิ้น 1,500,759.69 บาท คิดเป็นร้อยละ 71.20 และสามารถสรุปตามงบรายจ่าย และหมวดรายจ่าย ได้ดังนี้ 1.) งบบุคลากร (หมวดเงินเดือน, ค่าจ้างชั่วคราว) : ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 – 2558 กองนโยบายและแผน ไม่มีงบบุคลากร 2.) งบดำเนินงาน (หมวดเงินคำตอบแทน – ใช้สอย – วัสดุ, ค่าสาธารณูปโภค) : ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 3,942,000 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 984,006.74 บาท (ร้อยละ 24.96) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 761,200 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 701,396.32 บาท (ร้อยละ 92.14) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 1,260,800 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 748,415.69 บาท (ร้อยละ 59.36) จะเห็นว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับงบประมาณมากกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จำนวน 2,957,993.26 บาท และได้รับงบประมาณมากกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 จำนวน 2,681,200 บาท 3.) งบลงทุน (หมวดเงินค่าครุภัณฑ์, ค่าลิ้งก่อสร้าง) : ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 13,990 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 13,990 บาท (ร้อยละ 100) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ไม่มีงบลงทุน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 77,400 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 77,400 บาท (ร้อยละ 100) จะเห็นว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับงบประมาณน้อยกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 จำนวน 63,410 บาท และปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ไม่มีงบลงทุน 4.) งบอุดหนุน (หมวดเงินอุดหนุน) : ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 270,000 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 73,900 บาท (ร้อยละ 27.37) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 4,840,000 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 3,628,489.17 บาท (ร้อยละ 74.97) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 270,000 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 175,500 บาท (ร้อยละ 65.00) จะเห็นว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับงบประมาณน้อยกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จำนวน 4,570,000 บาท และได้รับงบประมาณเท่ากับปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 คือ 270,000 บาท 5.) งบรายจ่ายอื่น (หมวดเงินรายจ่ายอื่น) : ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 500,000 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 496,768.50 บาท (ร้อยละ 99.35) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 1,300,000 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 1,281,657.45 บาท (ร้อยละ 98.59) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 ได้รับจัดสรรงบประมาณ จำนวนทั้งสิ้น 500,000 บาท ใช้งบประมาณไป จำนวนทั้งสิ้น 499,444 บาท (ร้อยละ 99.89) จะเห็นว่า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 ได้รับงบประมาณน้อยกว่าปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 จำนวน 800,000 บาท และได้รับงบประมาณเท่ากับปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 คือจำนวน 500,000 บาท จากการวิเคราะห์ข้อมูลงบประมาณในภาพรวม ได้ผลดังนี้ 1.) การวิเคราะห์งบประมาณแผ่นดินที่ได้รับจัดสรร และใช้จ่าย พบว่า กองนโยบายและแผนได้รับงบประมาณแผ่นดินในอัตราส่วนที่เท่ากันเกือบทุกปี มีในปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 ที่ได้รับงบประมาณมากจากเดิม เนื่องจากมีโครงการที่เป็นงานในภาพมหาวิทยาลัยเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน พบว่า กองนโยบายและแผน มีอัตราการใช้จ่ายงบประมาณในแต่ละปี เกินร้อยละ 98 ทั้ง 3 ปี งบประมาณ 2.) การวิเคราะห์งบประมาณเงินรายได้ที่ได้รับจัดสรร และใช้จ่าย พบว่า กองนโยบายและแผนได้รับจัดสรรงบประมาณในส่วนของงบปกติ ในอัตราที่ใกล้เคียงกัน ไม่แตกต่าง แต่แตกต่างกันในส่วนของงบยุทธศาสตร์ ซึ่งได้รับเพิ่มขึ้นทุกปี ในส่วนของการใช้จ่ายงบประมาณเงินรายได้ พบว่า ในงบปกติ กองนโยบายและแผน มีอัตราการใช้จ่ายงบประมาณในแต่ละปี เกินร้อยละ 80 ทั้ง 3 ปีงบประมาณ ส่วนงบยุทธศาสตร์ มีการใช้จ่ายงบประมาณไม่แน่นอน
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    แนวทางการพัฒนาระบบงานตรวจสอบภายใน ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2560) สุกัลยา ประสิทธิผล
  • รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การวิเคราะห์สภาพการตรวจสอบภายใน ของมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2559) สุกัลยา ประสิทธิผล
  • รายการ
    แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2567) พนาวัน เปรมศรี; ภาสกร ดอกจันทร์; กัมปนาท วงษ์วัฒนพงษ์
    การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาระดับการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง 2) เพื่อศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง และ 3) เพื่อเสนอแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง วิธีการศึกษาเป็นวิจัยแบบผสานวิธี กลุ่มตัวอย่าง 395 คน ใช้การคำนวณกลุ่มตัวอย่างโดยสูตร Taro Yamane เก็บข้อมูลด้วยแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและสถิติการวิเคราะห์ถดถอยพหูคูณเชิงเส้นตรง (Multiple linear regression analysis) ผู้ให้ข้อมูลสำคัญ จำนวน 20 คน ด้วยวิธีการเลือกแบบเจาะจง เก็บรวบรวมข้อมูลด้วยการสัมภาษณ์เชิงลึก ผลการวิจัยพบว่า 1) ระดับการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่างภาพรวมอยู่ในระดับมาก (x̄ = 3.98) เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ระดับการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง อยู่ในระดับมากทั้ง 6 ด้าน 2) ปัจจัยที่มีผลต่อการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง (y) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 มีจำนวน 4 ตัวแปร เรียงลำดับผลต่อการผันแปรจากมากที่สุดไปหาน้อย คือ ด้านการบริหารจัดการ (X₈ Beta = .320) ด้านเงินหรืองบประมาณ (X₆ Beta = .265) ด้านคนหรือบุคคล (X₅ Beta = .118) และด้านการมีส่วนร่วมในการปฏิบัติ (X₂ Beta = .084) และ 3) แนวทางการขับเคลื่อนนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียวแบบมีส่วนร่วมของกลุ่มมหาวิทยาลัยภาคเหนือตอนล่าง พบว่า ควรมุ่งพัฒนาศักยภาพให้บุคลากรมีความพร้อมตอบสนองต่อนโยบายมหาวิทยาลัยสีเขียว โดยเฉพาะส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนนโยบายในทุกขั้นตอนมากขึ้น และปรับพฤติกรรมส่วนบุคคลของบุคลากรภายในมหาวิทยาลัย ทั้งการปรับทัศคติ และจิตสำนึกให้มีความรับผิดชอบต่อส่วนรวมมากยิ่งขึ้
  • รายการ
    การพัฒนารูปแบบการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2567) สิริลักษณ์ วงศ์ประสิทธิ์; ภาสกร ดอกจันทร์; กัมปนาท วงษ์วัฒนพงษ์
    การวิจัยเล่มนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อพัฒนารูปแบบการบริหารงานด้านการแนะแนว แบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง เป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) ผู้วิจัยใช้วิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) ดำเนินการโดยแบ่งเป็น 3 ระยะ คือ ระยะที่ 1 ศึกษาองค์ประกอบของการบริหารงานด้านการแนะแนวในสถานศึกษาตามแนวทางการบริหารแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ สังเคราะห์องค์ประกอบจากศึกษาเอกสาร ตํารา งานวิจัยที่เกี่ยวข้องโดยมีผู้ทรงคุณวุฒิประเมินความเหมาะสมและยืนยันองค์ประกอบการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ จำนวน 5 คน โดยใช้สูตรการคำนวณดัชนีความสอดคล้อง (Item-Objective Congruence Index: IOC) ระยะที่ 2 พัฒนารูปแบบการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ โดยการนำองค์ประกอบของการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ ระยะที่ 1 มาพัฒนารูปแบบการบริหารงานด้านการ แนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ และตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบโดยการจัดสนทนากลุ่ม (Focus group Discussion: FGD) ผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 7 คน และ ระยะที่ 3 ประเมินรูปแบบการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบผลสัมฤทธิ์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง ใช้วิธีสัมภาษณ์เชิงลึก (In-depth Interview) โดยผู้เชี่ยวชาญที่ได้มาด้วยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 12 คน จากมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง ได้แก่ มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม และ มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบูรณ์ ผลการวิจัย พบว่า รูปแบบการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่าง ประกอบด้วย 6 องค์ประกอบ ได้แก่ 1. ด้านนโยบายงานด้านการแนะแนว 2. ด้านการจัดบริการแนะแนวและให้คำปรึกษา 3. ด้านการวางแผนงานด้านการแนะแนว 4. ด้านโครงสร้างบุคลากรและผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 5. ด้านระบบบริหารงานด้านการแนะแนว 6. ด้านปัจจัยที่ส่งผลต่อการบริหารงานแนะแนวแบบมุ่งสัมฤทธิ์ ผลตรวจสอบความเหมาะสมของรูปแบบการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ พบว่า ผู้ทรงคุณวุฒิพิจารณาว่าเหมาะสม ส่วนผลการประเมินรูปแบบการบริหารงานด้านการแนะแนวแบบมุ่งผลสัมฤทธิ์ในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่างที่พัฒนาขึ้น พบว่า ผู้เชี่ยวชาญในมหาวิทยาลัยราชภัฏภาคเหนือตอนล่างพิจารณาว่ามีความเหมาะสมและความเป็นประโยชน์ทุกองค์ประกอบ