เรียกดูข้อมูลตาม ชื่อผู้แต่ง/ผู้สร้างสรรค์ผลงาน "อารยา บุญศักดิ์"
กำลังแสดง1 - 2 of 2
- Results Per Page
- ตัวเลือกการเรียงลำดับ
รายการ เมทาเดทาเท่านั้น ความหลากหลายของอาร์โทรพอดในสวนยางพารา อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2563) ขนิษฐา ไชยแก้ว; อารยา บุญศักดิ์; สุรีย์รัตน์ บัวชื่น; วณิชญา ฉิมนาควัตถุประสงค์ของงานวิจัยนี้เพื่อศึกษาความหลากหลายของอาร์โทรพอด ในสวนยางพารา อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก โดยศึกษาถึงความสัมพันธ์ของความอุดมสมบูรณ์ของสภาพพื้นที่กับความหลากหลายของอาร์โทรพอด โดยเก็บตัวอย่างอาร์โทรพอดที่อาศัยอยู่บริเวณผิวดิน และที่ระดับความลึก 10 เซนติเมตร วางแนวสำรวจยาว 100 เมตร สุ่มเก็บตัวอย่าง 10 จุด คัดแยกอาร์โทรพอดด้วยกรวยคัดแยก (Tullgren funnel) พบอาร์โทรพอดทั้งหมด 3 ชั้น 11 อันดับ 17 วงศ์ รวมทั้งหมด 323 ตัว โดยอาร์โทรพอด ชั้น Insecta พบจำนวนมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 76.78 รองลงมาคือ อาร์โทรพอดชั้น Archnida และ Diplopoda คิดเป็นร้อยละ 20.74 และ 2.48 ตามลำดับ เมื่อจำแนกตามอันดับ พบว่าแมลงในกลุ่มมดอันดับ Hymenoptera วงศ์ Formicidae พบจำนวนมากที่สุดคิดเป็นร้อยละ 32.20 ค่าดัชนีความหลากหลาย Shannon-Wiener Diversity Index (H') พบว่า ตำบลน้ำกุ่ม มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ 0.24 และพื้นที่ตำบลห้วยเฮี้ยมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ 0.10 ในส่วนค่าดัชนีความสม่ำเสมอ พบมีค่าดัชนีความสม่ำเสมอเฉลี่ย อยู่ในช่วง 0.03 – 0.08 และมีค่าดัชนีความความสม่ำเสมอเฉลี่ยของอันดับ Araneaer สูงที่สุด รองลงมาคืออันดับ Mantodea เท่ากับ 0.09 และ 0.02 ซึ่งจากการศึกษาพบว่าความหลากหลายของอาร์โทรพอดจะสัมพันธ์กับสภาพพื้นที่ โดยพื้นที่ที่มีความชุ่มชื้นมากกว่า เช่น ตำบลน้ำกุ่ม มีความหลากหลายของอาร์โทรพอดมากกว่าพื้นที่อื่นๆรายการ เมทาเดทาเท่านั้น ผลการจัดการเรียนการสอน แบบActive Learning ในรายวิชาภาษาอังกฤษเพื่องานโรงแรม(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2563) ณัฐกานต์ เส็งชื่น; อารยา บุญศักดิ์; สุรีย์รัตน์ บัวชื่น; วณิชญา ฉิมนาคการวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อหาผลสัมฤทธิ์จากการเรียนด้วยวิธีการสอนแบบ Active Learning และ เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักศึกษาที่มีต่อการเรียนรู้แบบ Active Learning กลุ่มตัวอย่าง คือ นักศึกษาสาขาวิชาภาษาอังกฤษธุรกิจที่ลงทะเบียนเรียนในรายวิชา ENG 173 ภาษาอังกฤษเพื่อการโรงแรม 2 ภาคการศึกษา 2/2559 ใช้วิธีสุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง จำนวน 45 คน เครื่องมือวิจัยที่ใช้ในการทดลอง คือ กิจกรรมการเรียนการสอนตามแบบการเรียนรู้ แบบ Active Learning แบบทดสอบก่อน-หลังเรียน และ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักศึกษาที่เรียนด้วยวิธีการเรียนการสอนแบบ Active Learning วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย (x̄) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และค่าร้อยละ ผลการวิจัย พบว่า คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักศึกษา สูงกว่าก่อนเรียน และ นักศึกษามีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (Active Learning) โดยรวมอยู่ระดับมาก มี ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.42