เรียกดูข้อมูลตาม ชื่อผู้แต่ง/ผู้สร้างสรรค์ผลงาน "สงวน ช้างฉัตร"
กำลังแสดง1 - 2 of 2
- Results Per Page
- ตัวเลือกการเรียงลำดับ
รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การศึกษาแนวทางการพัฒนาการจัดทำแผนแม่บทชุมชน : กรณีศึกษาตำบลวังพิกุล อำเภอวังทอง จังหวัดพิษณุโลก(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2549) เตือนใจ อุ่นจันทร์; ภาณุวัฒน์ ภักดีวงศ์; สงวน ช้างฉัตร; สุทิน เจริญสังข์การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษากระบวนการจัดทำแผนแม่บทชุมชนและนำเสนอแนวทางการพัฒนาการจัดทำแผนแม่บทชุมชนใหม่ แหล่งข้อมูลที่ใช้ในการศึกษาเป็นคณะกรรมการแผนแม่บทชุมชนตำบลวังพิกุล จำนวน 7 คน จากการเลือกแบบเจาะจงรวบรวมข้อมูลโดยวิธีการวิจัยเชิงคุณภาพ ประกอบด้วยการศึกษาเอกสารและสัมภาษณ์แบบสนทนากลุ่ม วิเคราะห์ข้อมูลโดยการจำแนกและจัดหมวดหมู่ข้อมูลตามประเด็นและนำเสนอแนวทางในรูปแบบตารางเปรียบเทียบประกอบการบรรยายสภาพ ผลการวิจัยพบว่า กระบวนการจัดทำแผนชุมชนในอดีต ดำเนินไปภายใต้แนวทาง วิธีการและการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรพัฒนาเอกชน โดยใช้แบบสอบถามเป็นเครื่องมือในการจัดเก็บข้อมูลเพื่อจัดทำแผนแม่บทชุมชน ปัญหาและอุปสรรคที่พบคือแกนนำผู้จัดเก็บข้อมูลและครัวเรือนผู้ให้ข้อมูลมีความเข้าใจในข้อคำถามของแบบสอบถามน้อย และขาดความต่อเนื่องในการนำแผนงานพัฒนาในแผนแม่บทชุมชนไปสู่การปฏิบัติ กระบวนการจัดทำแผนแม่บทชุมชนที่ควรปรับปรุง ได้แก่ ให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนมากขึ้น ให้เวทีประชาคมเป็นเครื่องมือในการตัดสินใจ ใช้ทุนหรือศักยภาพที่ชุมชนมีเพื่อให้เกิดการเรียนรู้ของชุมชนโดยกำหนดยุทธศาสตร์การสร้างระบบการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมของชุมชนและยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เพื่อให้สู้เป้าหมายชุมชนเข้มแข็ง พึ่งตนเองได้รายการ การเข้าถึงแบบเปิด แนวทางการพัฒนาส่วนผสมทางการตลาดของการค้ารถยนต์มือสอง ในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) กุสุมา แก้วบุรี; นิคม นาคอ้าย; สงวน ช้างฉัตรการวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบสภาพในการดำเนินธุรกิจการค้ารถยนต์มือสองและนำเสนอแนวทางพัฒนาส่วนผสมทางการตลาดของการค้ารถยนต์มือสองในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก การดำเนินการวิจัยมี 3 ขั้นตอน ขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพการดำเนินธุรกิจการค้ารถยนต์มือสองในอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ ผู้ประกอบการค้ารถยนต์มือสองในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จำนวน 87 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ขั้นตอนที่ 2 การเปรียบเทียบสภาพการดำเนินธุรกิจการค้ารถยนต์มือสองในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จำแนกตามประสบการณ์และระดับการศึกษาของผู้ประกอบการค้ารถยนต์มือสอง สถิติที่ใช้ในการวิจัยคือ การทดสอบค่า t-test ขั้นตอนที่ 3 นำเสนอแนวทางพัฒนาส่วนผสมทางการตลาดของการค้ารถยนต์มือสองในอำเภอเมืองจังหวัดพิษณุโลก ผลการวิจัยพบว่า 1. การศึกษาสภาพการดำเนินธุรกิจการค้ารถยนต์มือสองในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก ทั้ง 4 ด้าน ซึ่งประกอบด้วย ด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ก้านทำเลที่ตั้ง และด้านการส่งเสริมการขาย พบว่า ผู้ประกอบการค้ารถยนต์มือสองมีการดำเนินธุรกิจในภาพรวม มีสภาพการดำเนินธุรกิจอยู่ในระดับมาก 2. การเปรียบเทียบสภาพการดำเนินธุรกิจการค้ารถยนต์มือสองในอำเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก จำแนกตามประสบการณ์และระดับการศึกษาของผู้ประกอบการค้ารถยนต์มือสอง พบว่าการเปรียบเทียบสภาพดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการจำแนกตามประสบการณ์ทั้ง 2 กลุ่ม การดำเนินงานในภาพรวมไม่แตกต่างกันเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ด้านการส่งเสริมการขายแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 ส่วนผลการเปรียบเทียบสภาพการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการจำแนกตามระดับการศึกษาทั้ง 2 กลุ่ม การดำเนินงานในภาพรวมไม่แตกต่างกัน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ามีด้านการส่งเสริมการขายแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ0.05 3. การนำเสนอแนวทางการพัฒนาส่วนผสมทางการตลาดของการค้ารถยนต์มือสองเพื่อให้ผู้ประกอบการนำไปเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจและช่วยแกไขปัญหาในตลาดที่มีคู่แข่งขันสูง ซึ่งตลาดหแบบเก่าจะมีการพัฒนา ในด้านผลิตภัณฑ์ ด้านราคา ด้านช่องทางการจัดจำหน่าย/ทำเลที่ตั้ง และด้านการส่งเสริมหารขาย แต่การตลาดสมัยใหม่จะมุ่งเน้นการพัฒนาส่วนผสมทางการตลาด4P’ ควบคู่การพัฒนาสินค้า การบริการการสร้างความพึงพอใจ การบริการหลังการขายและการสร้างทัศนคติที่ดีที่ลุกค้ามีให้ผู้ประกอบการ และมีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์สินค้า ซึ่งแนวทางการพัฒนามีความเหมาะสมที่จะใช้เป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจได้
