• ไทย
  • English
Log In
คลิกลงทะเบียนลืมรหัสผ่าน
โลโก้คลังสารสนเทศ
หน้าแรก
เกี่ยวกับคลังสารสนเทศดิจิทัล
  • เกี่ยวกับคลังสารสนเทศดิจิทัล
  • วิสัยทัศน์
  • พันธกิจ
  • นโยบายการพัฒนา
  • โครงสร้างองค์กรและบุคลากร
  • ผู้เชี่ยวชาญ
  • เป้าหมาย
  • การเข้าถึงและการใช้งาน
  • การนำไปใช้และการเผยแพร่
  • กฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  • การติดต่อ
การนำฝากและการนำเข้าข้อมูล
  • การนำฝากและการนำเข้าข้อมูล
  • การเปลี่ยนแปลงเนื้อหา
  • ข้อตกลงในการอนุญาตให้จัดทำและเผยแพร่
  • แนวทางปฏิบัติในการจัดการข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
  • แผนการบำรุงรักษาไฟล์ดิจิทัล
  • มาตรฐานรูปแบบไฟล์
  • เกี่ยวกับเมทาดาทา
  • แผนสืบทอดคลังสารสนเทศ
  • มาตรการและแนวทางดำเนินงานเมื่อมีการใช้ทรัพยากรผิดเงื่อนไข
  • แผนการสงวนรักษาทรัพยากรสารสนเทศดิจิทัล
  • กระบวนการทำงาน
  • คู่มือการสืบค้น
  • คู่มือการบันทึกผลงาน
  • ร้องเรียนและขอถอนทรัพยากรสารสนเทศ
การรับรองมาตรฐาน
  • แบบประเมินตนเอง
  • รายงานการประเมินตนเอง
การเยี่ยมชมบันทึกผลงาน
  1. หน้าแรก
  2. ค้นหาตามชื่อผู้แต่ง/ผู้สร้างสรรค์ผลงาน

เรียกดูข้อมูลตาม ชื่อผู้แต่ง/ผู้สร้างสรรค์ผลงาน "ลำยอง สำเร็จดี"

กรองผลลัพธ์โดยการพิมพ์ตัวอักษรสองสามตัวแรก
กำลังแสดง1 - 6 of 6
  • Results Per Page
  • ตัวเลือกการเรียงลำดับ
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การจัดการความรู้เพื่อพัฒนาคุณภาพครูด้านทักษะการดำรงชีวิต สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 3
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2552) ศิริสุภา เอมหยวก; ลำยอง สำเร็จดี; เจนต์ คันทะ
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การพัฒนากระบวนการบริหารจัดการกองทุนของคระกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทหารอากาศ กองบิน 46
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) นพดล เหล่ากอ; ชนม์ชกรณ์ วรอินทร์; ลำยอง สำเร็จดี
    การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาสภาพและปัญหาของกระบวนการบริหารจัดการกองทุนของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทหารอากาศ กองบิน 46 และพัฒนากระบวนการบริหารจัดการกองทุนของคณะกรรมการของคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทหารอากาศ กองบิน 46 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 2 ชนิดคือ แบบสอบถาม จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นสมาชิกทั้ง 3 กองทุน จำนวน 333 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบง่าย วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และแบบสอบถามแบบมีโครงสร้าง ดำเนินการสัมภาษณ์จากกลุ่มตัวอย่างที่เป็นคณะกรรมการกองทุนหมู่บ้านจำนวน 20 คน วิเคราะห์ข้อมูลโดยวิเคราะห์เนื้อหา นำผลการวิเคราะห์ขั้นตอนที่ 1 มาสังเคราะห์โดยอิงทฤษฎีการบริหารและหลักธรรมาภิบาล มาร่างเป็นกระบวนการบริหารจัดการกองทุน ประเมินคุณภาพกระบวนการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้าน ตามมาตรฐานการประเมินที่พัฒนา STUFFLEBEAM และคณะ โดยการพิจารณาจากผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน ผลการวิจัยพบว่า สภาพและปัญหาของกระบวนการบริหารจัดการของคณะกรรมการบริหารจัดการกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองทหารอากาศ กองบิน 46 เป็นการจัดตั้งกองทุนอยู่ในส่วนบ้านพักอาศัย 4 เขต แบ่งออกเป็น 3 กองทุน การจัดตั้งกองทุน การคัดเลือกกรรมการ และการมอบหมายหน้าที่ของกรรมการ เป็นการแต่งตั้งด้านการบริหารจัดการกองทุนปัญหาอยู่ในระดับมาก คือด้านหลักการมีส่วนร่วม และด้านที่มีระดับปัญหาน้อย คือด้านหลักนิติธรรม การพัฒนากระบวนการบริหารจัดการกองทุน มีการจัดตั้งกองทุนอยู่ในส่วนหน่วยงานที่ใกล้เคียงกัน มีการประชุมจัดตั้งกองทุน ซึ่งมีผู้บังคับบัญชาในหน่วยงานมีการเลือกตั้งคณะกรรมการ และหมอบหมายหน้าที่ มีการประชาสัมพันธ์ตามหน่วยงาน การพัฒนาคุณภาพของกระบวนการบริหารจัดการกองทุน พบว่า ด้านอรรถประโยชน์ อยู่ในระดับมากที่สุด ด้านความเป็นไปได้ ด้านความเหมาะสม และด้านความถูกต้อง อยู่ในระดับมาก
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การพัฒนากลยุทธ์การบริหารกองทุนชุมชนของคณะกรรมการกองทุนชุมชน ในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) วัชรพล จันทเดช; ชุมพล เสมาขันธ์; ลำยอง สำเร็จดี
    การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุงหมายเพื่อ 1) ศึกษาสภาพการบริหารจัดการกองทุนชุมชนของคณะกรรมการกองทุนชุมชน 2) กำหนดกลยุทธ์การบริหารจัดการกองทุนชุมชนของคระกรรมการกองทุนชุมชน 3) ทดลองการใช้กลยุทธ์โดยเปรียบเทียบผลการดำเนินงานก่อและหลังการใช้กลยุทธ์ 4) ประเมินการใช้กลยุทธ์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ กองทุนชุมชนที่มีปัญหาในการบริหารจัดการมากที่สุด จำนวน 1 ชุมชน โดยผู้วิจัยเลือกกองทุนชุมชนอยู่ในระดับต้องปรับปรุง (A) ตามเกณฑ์ชี้วัดระดับกองทุนชุมชนเมืองรวบรวมข้อมูลโดยการสนทนากลุ่มใช้แบบสอบถามแบบไม่มีโครงสร้าง ตรวจสอบแบบสามเส้า วิเคราะห์ข้อมูลแบบสรุปอุปนัย ผลการศึกษาพบว่า กองทุนชุมชนมีปัญหาที่ต้องแก้ไขทันที่เกี่ยวกับการจัดทำบัญชีและเอกสารการเงินไม่ถูกต้องและไม่เป็นปัจุบัน ไม่มีการตรวจสอบและติดตามการชำระหนี้ คณะกรรมการไม่มีการประชุมกันและติดตามผลการดำเนินงาน ผู้วิจัยได้กำหนดกลยุทธ์เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยนำไปใช้กับคณะกรรมการกองทุนชุมชนที่ได้ผ่านกระบวนการศึกษาปัญหาและสมัครใจเข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 10 คน กลยุทธ์ ประกอบด้วยการชี้แจ้งทำความเข้าใจในการบริหารจัดการชุมชน และการประชุมวางแผนแก้ไขปัญหาร่วมกันผลการใช้กลยุทธ์ได้เปรียบเทียบผลการดำเนินงานระหว่างเดือนมิถุนายน ถึงเดือน สิงหาคม 2549 กับเดือนมิถุนายน ถึงเดือนสิงหาคม 2550 ด้วยการจัดทำบัญชีและเอกสารการเงิน การตรวจสอบและติดตามการชำระหนี้ของลูกหนี้ และการประชุมและติดตามผลการดำเนินงานของคณะกรรมการกองทุนชุมชน นอกจากนี้ยังมีการประเมินการใช้กลยุทธ์โดยใช้แบบประเมินมาตราส่วนประมาณค่า และวิเคราะห์ข้อมูลด้วยค่าเฉลี่ยและส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการใช้กลยุทธ์คณะกรรมการกองทุนชุมชนมีการตรวจสอบการจัดทำบัญชีและเอกสารการเงิน มีการตรวจสอบและติดตามการชำระหนี้ของลูกหนี้โดยมาตรการที่ชัดเจนมีการประชุมและติดตามผลการดำเนินงาน และลูกหนี้มาชำระหนี้มากขึ้น กลยุทธ์มีความเหมาะสมในระดับมาก
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การพัฒนากลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสมาชิกสหกรณ์ผู้ใช้น้ำมันบ้านกร่างพิษณุโลก จำกัด
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) ภิรมย์ สิทธิกมลรัตน์; ชุมพล เสมาขันธ์; ลำยอง สำเร็จดี
    การวิจัยและพัฒนาครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) สำรวจสภาพการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสมาชิกสหกรณ์ผู้ใช้น้ำมันบ้านกร่างพิษณุโลก จำกัด 2) พัฒนาคุณภาพ กลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสมาชิกสหกรณ์ผู้ใช้น้ำมันบ้านกร่างพิษณุโลก จำกัด 3) ทดลองใช้กลยุทธ์โดยการเปรียบเทียบการมีส่วนร่วมของสมาชิกก่อนและหลังการใช้กลยุทธ์ ระหว่างเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2549 กับช่วงเดือนมิถุนายน – สิงหาคม 2550 4) ประเมินกลยุทธ์การมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสมาชิกสหกรณ์ผู้ใช้น้ำมันบ้านกร่างพิษณุโลก จำกัด หลังการใช้กลยุทธ์ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ สมาชิกสหกรณ์รวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า วิเคราะห์ข้อมูล ใช้ค่า t-test dependent ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน กระบวนการวิจัย แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ 1) การสำรวจสภาพการมีส่วนร่วมในการดำเนินงานของสมาชิกสหกรณ์ จำนวน 231 คน 2) การกำหนดกลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหา 3) ทดลองใช้กลยุทธ์กับสมาชิกสหกรณ์ที่สมัครใจ จำนวน 40 คน 4) ประเมินการใช้กลยุทธ์ ซึ่งพบว่าสภาพการมีส่วนร่วมนั้น ส่วนใหญ่สมาชิกสหกรณ์ผู้ใช้น้ำมันมีความรู้ความเข้าใจในอุดมการณ์ หลักการและวิธีการสหกรณ์ระดับน้อย ความคิดเห็นที่มีต่อสหกรณ์ในภาพรวมอยู่ในระดับน้อย กลยุทธ์ในการแก้ไขปัญหาได้แก่ เอกสารเผยแพร่ การให้การศึกษาฝึกอบรม กำหนดกิจกรรมให้เกิดกระบวนการมีส่วนร่วม การสนทนากลุ่ม แบ่งกลุ่มคัดเลือกผู้นำ และการกระตุ้นเตือนเป็น เวลา 3 เดือน ผลการวิจัยพบว่า ภายหลังการใช้กลยุทธ์ความรู้ความเข้าใจในอุดมการณ์ หลักการ และวิธีการสหกรณ์และความคิดเห็นที่มี่ต่อสหกรณ์ ในภาพรวมเพิ่มมากขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และมีการซื้อสินค้าจากสหกรณ์อยู่ในระดับมากที่สุด
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    การศึกษาความคิดเห็นของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในจังหวัดพิษณุโลก
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) วิลาวัลย์ ประทุมวงศ์; สธน โรจตระกูล; ลำยอง สำเร็จดี
    การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความคิดเห็นของผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเกี่ยวกับความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในจังหวัดพิษณุโลก กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 66 แห่ง แห่งละ 3 คน ประกอบด้วย นายกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 66 คน สมาชิกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 66 คน และปลัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จำนวน 66 คน รวมทั้งสิ้น 198 คน ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพิษณุโลก ซึ่งมีค่า Reliability เท่ากับ .95 ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง ได้ข้อมูลกลับคืนมา จำนวน 183 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 92.42 และทำการวิเคราะห์ข้อมูลด้วยการหาความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และเปรียบเทียบโดยการหาค่าที่ และการวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว จากนั้นทดสอบรายคู่ด้วยวิธีการของเชฟเฟ่ ผลการวิจัยพบว่า 1.ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจังหวัดพิษณุโลก มีความคิดเห็นต่อความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นภาพรวมอยู่ในระดับมาก โดยด้านงบประมาณมีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมา ได้แก่ ด้านการวางแผน และต่ำสุด ได้แก่ ด้านบุคลากร 2.ผลการเปรียบเทียบความพร้อมในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพิษณุโลก จำแนกตามตัวแปรอิสระ 2 ตัวแปร ดังนี้ 2.1จำแนกตามประเภทขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาพรวมไม่แตกต่างกัน โดยผู้บริหารเทศบาลมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ส่วนผู้บริหารองค์การบริหารส่วนตำบลมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก โดยด้านการวางแผน และด้านบริหารจัดการศึกษามีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2.2จำแนกตามประสบการณ์การบริหารงาน ภาพรวมและทุกด้านไม่แตกต่างกัน โดยผู้บริหารที่มีประสบการณ์การบริหารงานน้อยกว่า 5 ปี มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก ผู้บริหารที่มีประสบการณ์การบริหารงาน 5 – 10 ปี มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมาก และผู้บริหารที่มีประสบการณ์การบริหารงานมากกว่า 10 ปี มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากด้วยเช่นเดียวกัน
  • Thumbnail Image
    รายการการเข้าถึงแบบเปิด
    แนวทางพัฒนาคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลก เขต 3
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2550) ภูษิต ล้ำสมภพ; อำนวยพร สุนทรสมัย; ลำยอง สำเร็จดี
    การวิจัยนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาปัญหาทางจริยธรรมของนักเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลกเขต 3 และนำเสนอแนวทางการพัฒนาจริยธรรมของนักเรียน ตามมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้านคุณภาพผู้เรียน มาตรฐานที่ 1 ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์กลุ่มตัวอย่างเป็นตัวแทนครูในอำเภอพรหมพิราม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาพิษณุโลกเขต 3 จำนวน 53 แห่ง ๆ ละ 2คน คือครูที่ปรึกษา 1 คน และครูแนะแนวหรือครูฝ่ายปกครอง 1 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบเจาะจง เครื่องมือในการเก็บข้อมูลเป็นแบบตรวจสอบรายการและแบบมาตรฐานส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ผลการวิจัยพบว่า สภาพปัญหาส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานากลาง ดังนี้ การมีวินัย มีความรับผิดชอบและปฏิบัติตนตามหลักธรรมเบื้องต้นฯ ได้แก่ แต่งกายเรียบร้อยและถูกระเบียบและมีมารยาทในการรับประทานอาหาร ความซื่อสัตย์สุจริต ได้แก่ ปฏิบัติตามระเบียบการสอบและไม่ลอกการบ้านไม่ลักขโมยทรัพย์สิน ไม่พูดโกหกและกล้ายอมรับความจริง ความกตัญญูตกเวที ได้แก่ แสดงออกถึงความรักและเคารพพ่อแม่ เคารพและเชื่อฟังครูอาจารย์ ปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่และครุอาจารย์ และเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมชุมชนและครอบครัว ความเมตตากรุณาเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ และเสียสละ ได้แก่ รู้จักให้เพื่อส่วนรวมและผู้อื่น และแบ่งปันทรัพย์สินและสิ่งของให้แก่ผู้อื่น แสดงออกถึงการมีน้ำใจและชอบช่วยเหลือผู้อื่นและเสียสละต่อผู้ด้อยโอกาส และไม่เอาเปรียบผู้อื่น ความประหยัด ได้แก่ รู้จักใช้ทรัพย์สินของของโรงเรียนอย่างประหยัดใช้อุปกรณ์การเรียนอย่างประหยัด เข้าร่วมกิจกรรมประหยัดของโรงเรียน รู้จักใช้น้ำ ไฟฟ้า และสาธารณูปโภคที่โรงเรียนและที่บ้านอย่างประหยัด และรู้จักการออมเงิน และใช้เงินอย่างประหยัด ภูมิใจในความเป็นไทยและดำรงไว้ซึ่งความเป็นไทย ได้แก่ แสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ชอบเรียนรู้และสนใจในภูมิปัญญาไทยของท้องถิ่นของตน เรียนรู้และสนใจในศิลปวัฒนธรรมประเพณีในท้องถิ่นของตนสามารถเผยแพร่ความรู้และภูมิปัญญาท้องถิ่นได้ และแสดงออกถึงความรักและความหวงแหนในศิลปวัฒนธรรม ประเพณี และภูมิปัญญาไทย

สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

156 ม.5 ต.พลายชุมพล อ.เมือง จ.พิษณุโลก 65000

โทรศัพท์: 0-5526-7224-5

เว็บไซต์: library.psru.ac.th

E-mail: lib_pibul@live.psru.ac.th

LiveChat

Pibulsongkram Logo

สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)

Follow Us
Pibulsongkram Logo

                       

©2025 คลังสารสนเทศดิจิทัลพิบูลสงคราม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

  • นโยบายความเป็นส่วนตัว
  • ข้อตกลงสำหรับผู้ใช้
  • ข้อเสนอแนะ