มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/128

ค้นหา

ผลการค้นหา

กำลังแสดง1 - 2 of 2
  • รายการ
    ประสิทธิผลการนำนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวไปปฏิบัติในอำเภอแแม่สอด จังหวัดตาก
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2567) ปุณณดา ทรงอิทธิสุข; ศรชัย ท้าวมิตร; โชติ บดีรัฐ
    แรงงานข้ามชาติหรือแรงงานต่างด้าวเป็นหนึ่งปัจจัยสำคัญในการดำเนินธุรกิจภาคส่วนต่างๆ ของประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมารัฐบาลแต่ละสมัยได้มีนโยบายที่ชัดเจนในการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว แต่จะพบว่า มาตรการต่างๆ ของภาครัฐทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น เกี่ยวกับการควบคุมดูแลการเข้าเมือง การขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว สวัสดิการ การจ้างงาน และคุณภาพชีวิตด้านอื่นๆ ของแรงงานยังอยู่ในสภาวะที่ประสบกับความล้มเหลว ผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาเรื่อง ประสิทธิผลการนำนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาประสิทธิผลการนำนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวของหน่วยงานรัฐไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก 2) ศึกษาปัจจัยที่มีผลต่อความสำเร็จและความล้มเหลวของหน่วยงานรัฐในการนำนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และ 3) เพื่อให้ได้ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการทำงานของหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับการนำนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวไปปฏิบัติในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เป็นการวิจัยแบบผสานวิธี (Mixed Methodology) กล่าวคือ เป็นการนำเทคนิควิธีการวิจัยเชิงปริมาณและเทคนิควิธีการวิจัยเชิงคุณภาพมาผสมผสานกัน โดยกำหนดขนาดของกลุ่มตัวอย่างในการวิจัยครั้งนี้เท่ากับจำนวน 316 ตัวอย่าง ใช้เครื่องมือการวิจัยเป็นแบบสอบถามและแบบสัมภาษณ์ ผลการวิจัย พบว่า ความคิดเห็นเกี่ยวกับประสิทธิผลการนำนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก พบว่า ส่วนใหญ่อยู่ในระดับมาก โดยเห็นด้วยกับการที่มีการใช้กฎหมายควบคุมการขออนุญาตการทำงานของคนต่างด้าวมากที่สุด (Mean = 4.47, S.D. = 0.702) และที่ระดับน้อยที่สุด คือ ระบบและกระบวนการขออนุญาตการทำงานของคนต่างด้าวมีความสะดวกและรวดเร็วมากขึ้น (Mean = 3.94, S.D. = 0.640) ความคิดเห็นเกี่ยวกับปัจจัยที่ส่งผลต่อการนำนโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระดับความคิดเห็นที่มากที่สุด คือ นโยบายการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวมีความชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้จริง โดยค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด (Mean = 4.58, S.D. = 0.664) แต่ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ซึ่งปัจจัยที่มีระดับความคิดเห็นสำคัญ คือ มีการจัดศูนย์ประสานความร่วมมือระหว่างหน่วยงาน (Mean = 3.74, S.D. = 0.756)
  • รายการ
    กระบวนการและเส้นทางการลักลอบค้ามนุษย์ในแรงงานภาคการประมงของประเทศไทย
    (มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2564) ทัศนีย์ ปัทมสนธิ์; อรุณี กาสยานนท์; กฤติมา อินทะกูล
    งานวิจัยเรื่องกระบวนการและเส้นทางการลักลอบค้ามนุษย์ในแรงงานภาคการประมงของประเทศไทย มีวัตถุประสงค์การวิจัยคือ 1) เพื่อศึกษากระบวนการและเส้นทางการลักลอบค้ามนุษย์ในแรงงานภาคการประมงของประเทศไทย 2) เพื่อศึกษารูปแบบ ลักษณะ วิธีการ เครือข่าย การลักลอบค้ามนุษย์ในแรงงานภาคการประมงของไทย และ 3) เพื่อศึกษาและสังเคราะห์แนวทางป้องกันและปราบปรามการลักลอบการค้ามนุษย์ในแรงงานภาคการประมงของไทย โดยเก็บข้อมูลจากแรงงานต่างด้าวที่เป็นผู้ใช้แรงงานในภาคการประมงของไทย ในเขตพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและระนอง จํานวน 114 คนด้วยแบบสอบถาม สัมภาษณ์เชิงลึกกับเหยื่อการค้ามนุษย์ เจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและตัวแทนผู้ประกอบการภาคเอกชนในธุรกิจการประมง ผลการวิจัยพบว่ากระบวนการและเส้นทางการเข้ามาทํางานเริ่มจากการติดต่อกลุ่มคนที่ต้องการเข้ามาใช้แรงงานในเมืองไทย ผ่านนายหน้าที่มีหลากหลายและมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาพัวพันร่วมขบวนการเป็นขุมเครือข่ายใหญ่มีอิทธิพล ช่องทางการเข้าเมืองส่วนใหญ่เป็นการหลบหนีเข้าเมืองตามเส้นทางธรรมชาติ รูปแบบการเดินทางโดยมากจะมาเป็นกลุ่ม โดยมีนายหน้าฝั่งไทย คอยจัดสางกลุ่มแรงงานกระจายไปยังเป้าหมาย ผ่านการหลอกลวง การสร้างหนี้ การบังคับขู่เข็ญ การกักขังหน่วงเหนี่ยว ภายใต้เงื่อนไขทํางานก่อน พอมีรายได้จะถูกหักค้าขนส่ง ค้านายหน้า ทําให้ต้องถูกกักตัวเพื่อทํางานแลกเงิน ในส่วนของแนวทางป้องกันและปราบปรามการลักลอบการค้ามนุษย์ที่สําคัญคือการแก้ไขปัญหาในเชิงมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามโครงสร้างโดยการบูรณาการทั้งความคิดและวิธีการปฏิบัติของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งนี้กฎหมายต้องสามารถบังคับใช้ได้อย่างจริงจังกับนายหน้า ผู้ประกอบการ และการทุจริตคอร์รัปชั่นของเจ้าหน้าที่รัฐ