มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/128
ค้นหา
2 ผลลัพธ์
ผลการค้นหา
รายการ การเข้าถึงแบบเปิด การผลิตผงกล้าเชื้อ Bacillus subtilis TN51 เพื่อใช้หมัก ถั่วเหลือง(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2558) จักรกฤษ แจ่มจันทร์; เกตุการ ดาจันทา; ปิยวรรณ ศุภวิทิตพัฒนางานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษากระบวนการผลิตผงกล้าเชื้อ Bacillus subtilis TN51 สำหรับหมักถั่วเหลืองหมัก (ถั่วเน่า) โดยศึกษาอาหารเลี้ยงเชื้อเพื่อเพิ่มจำนวนเชื้อ B. subtilis ในเบื้องต้น และศึกษาอุณหภูมิในการบ่มเพาะเชื้อ กระบวนการผลิตผงกล้าเชื้อที่เหมาะสม และอายุการเก็บรักษาผงกล้าเชื้อ ผลจากการผลิตผงกล้าเชื้อพบว่าอาหารเลี้ยงเชื้อสูตรพื้นฐานที่เติมแป้งสาลีร้อยละ 40 (w/w) ช่วยเพิ่มจำนวน total viable count (TVC) และ spore count (SPC) หลังการบ่มที่อุณหภูมิ 42 องศาเซลเซียส นาน 24 ชั่วโมง การเติมแป้งสาลีที่ผ่านการฆ่าเชื้อในหม้อนึ่งความดันไอช่วยเพิ่มปริมาณกล้าเชื้อได้ดีกว่าการเติมแป้งสาลีที่ผ่านการอบจากตู้อบลมร้อน หลังการอบแห้งแป้งหมักกล้าเชื้อในตู้อบลมร้อนและบดให้เป็นผงละเอียดได้ผงกล้าเชื้อที่มีสปอร์จำนวน 7.71 log CFU/g และมีค่า water activity ต่ำกว่า 0.6 หลังการเก็บรักษาผงกล้าเชื้อในถุงพลาสติกใสและอลูมิเนียมฟอยส์ที่อุณหภูมิ 37 หรือ 4 องศาเซลเซียส นาน 90 วัน พบการเหลือรอดของสปอร์อยู่ในช่วงร้อยละ 72 – 83 สำหรับการหมักถั่วเน่าด้วยการเติมผงกล้าเชื้อที่ผลิตได้ลงในถั่วเหลืองดิบลูก (BTN) และถั่วเหลืองที่นึ่งสุกด้วยหม้อนึ่งความดันไอ (ATN) ในปริมาณร้อยละ 0.1 (w/w) และบ่มที่อุณหภูมิ 42 องศาเซลเซียส นาน 24 ชั่วโมง และหมักถั่วเน่าแบบพื้นบ้าน (CTN) เป็นชุดควบคุม ผลการศึกษา พบว่า ถั่วเน่า ATN มีการเพิ่มขึ้นของ TVC, SPC, ค่า pH, น้ำตาลรีดิวซ์และน้ำตาลทั้งหมดสูงกว่าถั่วเน่า BTN และ CTN นอกจากนี้ยังตรวจพบการปนเปื้อนของเชื้อยีสต์และรา, E. coli, S. aureus และ B. cereus ในปริมาณต่ำอีกด้วยรายการ การเข้าถึงแบบเปิด กิจกรรมด้านอนุมูลอิสระ ด้านเอนไซม์ไทโรซิเนส และด้านแบคทีเรีย ของคีเฟอร์นมธัญพืช(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2562) มนตรา ศรีษะแย้มคีเฟอร์เป็นผลิตภัณฑ์นมที่มีรายงานว่านมที่ผ่านการหมักมีฤทธิ์ทางชีวภาพเพิ่มขึ้น แต่การศึกษาการทำคีเฟอร์ด้วยนมธัญพืชยังขาดการศึกษาอย่างมาก งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาฤทธิ์ของคีเฟอร์นมธัญพืช ในการต่อต้านอนุมูลอิสระ ยับยั้งกิจกรรมเอนไซม์ไทโรซิเนส ยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียก่อให้เกิดสิว (Propionibacterium acnes DMST 14916 และ Staphylococcus aureus DMST 8013) และทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์ HaCaT การศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระใช้วิธี DPPH radical scavenging การศึกษาฤทธิ์ยับยั้งกิจกรรมเอนไซม์ไทโรซิเนสใช้วิธี mushroom tyrosinase inhibition ทดสอบความสามารถในการยับยั้งแบคทีเรียด้วยวิธี agar well diffusion และทดสอบความเป็นพิษต่อเซลล์ HaCaT ด้วยวิธี MTT assay ผลที่ได้พบว่าฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของคีเฟอร์นมงาดำที่ระยะเวลาหมัก 72 ชั่วโมง มีฤทธิ์การต้านอนุมูลอิสระสูงสุด มีค่า IC50 เท่ากับ 0.78 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ผลการยับยั้งกิจกรรมเอนไซม์ไทโรซิเนส พบว่าคีเฟอร์นมข้าวโพดยับยั้งกิจกรรมเอนไซม์ไทโรซิเนสได้สูงสุด พบ % inhibition เท่ากับ 99.60±0.06% ที่ระยะเวลาหมัก 72 ชั่วโมง เมื่อเปรียบเทียบประสิทธิภาพของตัวอย่างคีเฟอร์ทั้ง 3 ชนิด ในการยับยั้งแบคทีเรีย พบว่าคีเฟอร์นมงาดำ 250 มิลลิกรัม/มิลลิลิตรที่ระยะเวลาหมัก 72 ชั่วโมง สามารถยับยั้งเชื้อ P. acnes DMST 14916 ได้สูงสุด (14.67±0.58 มิลลิเมตร) ขณะที่คีเฟอร์นมข้าวโพด 250 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร ที่ระยะเวลาหมัก 72 ชั่วโมง สามารถยับยั้งเชื้อ S. aureus DMST 8013 ได้สูงสุด (25.00±1.00 มิลลิเมตร) นอกจากนี้พบว่านมธัญพืชทั้ง 3 ชนิด มีฤทธิ์ทางชีวภาพสูงขึ้นเมื่อผ่านกระบวนการหมัก แต่อย่างไรก็ตามเมื่อพิจารณาถึงความเป็นพิษต่อเซลล์ HaCaT พบว่ามีความเป็นพิษสูงในระดับความเข้มข้นที่ 50 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร จากงานวิจัยนี้แสดงให้เห็นว่า คีเฟอร์นมธัญพืชสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในผลิตภัณฑ์เวชสำอางได้ แต่ควรจำกัดความเข้มข้นที่ใช้ให้เหมาะสม