มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม
Permanent URI for this communityhttps://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/128
ค้นหา
2 ผลลัพธ์
ผลการค้นหา
รายการ เมทาเดทาเท่านั้น การศึกษาความต้องการจำเป็นและแนวทางการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในสหวิทยาเขตพุทธชินราช สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2566) กานดา กันฉิม; นิคม นาคอ้ายการวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมาย 1) เพื่อศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในสหวิทยาเขตพุทธชินราช สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์ ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารและครูในสหวิทยาเขตพุทธชินราช สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์ จำนวน 266 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 5 คน ครู 154 คน รวมจำนวน 159 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ แบบการตอบสนองคู่ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็น 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในสหวิทยาเขตพุทธชินราช เครื่องมือที่ใช้คือแบบสัมภาษณ์ กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ประกอบไปด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิที่มีวุฒิการศึกษาไม่ต่ำกว่าระดับปริญญาโท และมีประสบการณ์ในการบริหารการศึกษาหรือสถานศึกษา จำนวน 7 ท่าน โดยการเลือกกลุ่มผู้ให้ข้อมูลแบบเจาะจง และวิเคราะห์ข้อมูลโดยการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1) การศึกษาความต้องการจำเป็นในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในสหวิทยาเขตพุทธชินราช ค่าดัชนีลำดับความสำคัญของความต้องการจำเป็นในการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษา พบว่า ในภาพรวมมีค่าเท่ากับ .12 เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทักษะความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม มีค่าดัชนีลำดับความสำคัญสูงสุดเป็นลำดับแรก 2) แนวทางการพัฒนาทักษะการเรียนรู้เชิงนวัตกรรมของผู้บริหารสถานศึกษาในสหวิทยาเขตพุทธชินราช สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาพิษณุโลก อุตรดิตถ์ ที่ผู้ทรงคุณวุฒิมีความคิดเห็นสอดคล้องกันสูงสุด คือ (1) ด้านทักษะความคิดสร้างสรรค์เชิงนวัตกรรม ผู้บริหารสถานศึกษาควรพัฒนาความรู้เกี่ยวกับทักษะการใช้เทคโนโลยี การนำเสนอ และกระบวนการคิด (2) ด้านทักษะการสื่อสารเพื่อการร่วมมือทำงาน ผู้บริหารสถานศึกษาควรพัฒนาเกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีและสารสนเทศ (3) ด้านทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณเพื่อการแก้ปัญหา ผู้บริหารสถานศึกษาควรพัฒนาการคิดอย่างมีเหตุผล ภายใต้ข้อมูลสารสนเทศ ประกอบการตัดสินใจ และสร้างทางเลือกวิธีการแก้ปัญหาจากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสมกับเหตุการณ์ปัจจุบันรายการ เมทาเดทาเท่านั้น การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษากับการส่งเสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3(มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม, 2566) นาราภัทร แซ่หว้า; ณิรดา เวชญาลักษณ์การวิจัยครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อ 1) ศึกษาภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา 2) ศึกษาการส่งเสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมของครู 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษากับการส่งเสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมของครู สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 กลุ่มตัวอย่าง คือ สถานศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 จำนวน 113 แห่ง จากตารางของเครจซี่และมอร์แกน นำมาเทียบสัดส่วนกำหนดผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน โดยวิธีการสุ่มแบบง่าย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยคือ แบบสอบถามประมาณค่า 5 ระดับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์แบบเพียร์สัน ผลการวิจัย พบว่า ภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษา โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การสื่อสารยุคดิจิทัล และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การพัฒนาสู่ความเป็นมืออาชีพทางดิจิทัล การส่งเสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมของครู โดยภาพรวมอยู่ในระดับ มากที่สุด ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ การส่งเสริมทักษะการคิดเชื่อมโยง และด้านที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ การส่งเสริมทักษะการร่วมมือ และความสัมพันธ์ระหว่างภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษากับการส่งเสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมของครู โดยภาพรวมมีความสัมพันธ์กันทางบวก อยู่ในระดับปานกลาง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยภาวะผู้นำยุคดิจิทัลของผู้บริหารสถานศึกษาด้านการสื่อสารยุคดิจิทัลมีความสัมพันธ์สูงสุดกับการส่งเสริมทักษะการคิดเชิงนวัตกรรมของครูในทุกด้าน