พัฒนพันธ์ เขตดำันอำนวย รุ่งแจ้ง2025-05-192557https://psruir.psru.ac.th/handle/123456789/262การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัญหาและภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนต่อการให้บริการประชาชน : กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร 2) เพื่อเปรียบเทียบปัจจัยที่ส่งผลต่อสภาพปัญหาและภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนต่อการให้บริการประชาชน : กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร และ 3) เพื่อศึกษาแนวทางในการปฏิบัติงานในอนาคตของกองอาสารักษาดินแดน: กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร ซึ่งเป็นการวิจัยเชิงปริมาณและคุณภาพ การวิจัยเชิงปริมาณ ใช้กลุ่มตัวอย่างที่ได้จากการกำหนดขนาดด้วยตารางสำเร็จรูปของ "Taro Yamane" ที่จำนวน 263 คน เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูลได้แก่ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนา และสถิติอนุมาน นำมาแจกแจงความถี่ หาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ส่วนการวิจัยเชิงคุณภาพ ใช้กลุ่มตัวอย่างที่ได้จากวิธีการการสัมภาษณ์จำนวน 16 คน และวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้มาด้วยการวิเคราะห์เชิงเนื้อหาแล้วสรุปผลเป็นความเรียง ผลการวิจัยพบว่า: 1.สภาพปัญหาและภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนต่อการให้บริการประชาชน : กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร ทั้งหมด 6 ด้าน พบว่าในภาพรวม อยู่ในระดับปานกลาง และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ด้านสภาพแวดล้อมภายในองค์กร และรองลงมาตามลำดับ คือ ด้านความพึงพอใจ ด้านแนวทางการปรับปรุงในอนาคต ด้านการสร้างขวัญกำลังใจ และด้านงบประมาณ 2.เปรียบเทียบปัจจัยที่มีผลต่อสภาพปัญหาและภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนต่อการให้บริการประชาชน : กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร แจกแจงตามปัจจัยส่วนบุคคล พบว่า เพศ อายุ สถานภาพสมรส และรายได้ มีผลต่อสภาพปัญหาและภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนต่อการให้บริการประชาชน : กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร ส่วนระดับการศึกษา อาชีพ ไม่มีผลต่อสภาพปัญหาและภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนต่อการให้บริการประชาชน : กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร 3.แนวทางในการปฏิบัติงานในอนาคตของกองอาสารักษาดินแดน: กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตร ที่ได้จากการสัมภาษณ์กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 15 คน พบว่า การปฏิบัติงานในอนาคตของกองอาสารักษาดินแดนนั้น ควรมีการจัดแบ่งสายงานให้เป็นรูปธรรมมากขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะการมีสายบังคับบัญชาที่ชัดเจน มีกำลังพลที่เพียงพอในการปฏิบัติหน้าที่ มีอุปกรณ์เครื่องมือที่พร้อมในการทำงานและมียานพาหนะในการออกปฏิบัติงานเร่งด่วน เพราะในยุคปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า สังคมโลกที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ประกอบกับความเจริญก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือว่ามีความจำเป็นอย่างยิ่งที่บุคลากรของกองอาสารักษาดินแดนจะต้องมีการทำงานเชิงรุกมากขึ้น มีการส่งเสริมและสนับสนุนให้บุคลากรสามารถฝึกทักษะ และพัฒนาศักยภาพของตนเองอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่เกิดความเชี่ยวชาญในทุกๆ ด้าน โดยเฉพาะการตระหนักและใส่ใจในเรื่องการให้บริการแก่ประชาชนที่เน้นความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดapplication/pdfthaผลงานนี้เผยแพร่ภายใต้ สัญญาอนุญาตครีเอทีฟคอมมอนส์แบบแสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-ไม่ดัดแปลง 4.0 (CC BY-NC-ND 4.0)ทหารอาสารักษาดินแดนบริการสังคมบริการสาธารณะท้องถิ่นการศึกษาสภาพปัญหาและภารกิจของกองอาสารักษาดินแดนต่อการให้บริการประชาชน : กรณีศึกษาในเขตจังหวัดพิจิตรA Study of the Problem and Mission Volunteer Health the Territory : a Case Study in the Pichit Provinceวิทยานิพนธ์/Thesisมหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม